อุทิศส่วนกุศลไม่ใช่ถึงแบบไปรษณีย์


    อย่างการอุทิศส่วนกุศล เวลาที่เราทำบุญกุสลแล้วอุทิศส่วนบุญกุศลให้คนอื่น ไม่ใช่ว่าเขารับกุศลของเราไป ไม่ใช่ในลักษณะของไปรษณีย์ แต่ต้องหมายความว่าเมื่อผู้นั้นรู้แล้วเกิดกุศลจิตของตัวเองที่อนุโมทนาในกุศลของคนอื่น จิตที่ผ่องใสที่อนุโมทนาในกุศล ในคุณความดีของคนอื่น ขณะนั้นเป็นกุศลจิต

    เพราะฉะนั้นการที่ถามว่าแล้วจะได้บุญไหม ไม่ได้บุญไหม จะถึงผู้นั้นไหม จะถึงผู้นี้ไหม ไม่ใช่ถึงเหมือนกับหยิบยื่นให้ แต่เพราะการที่เขารู้แล้วเขาอนุโมทนาหรือไม่อนุโมทนา ถ้าเขาไม่อนุโมทนาเขาไม่เกิดกุศลของเขาเอง แต่ถ้าเป็นปัจจัยให้กุศลจิตของเขาเกิดแล้วอนุโมนาเมื่อไร เมื่อนั้นก็เป็นกุศลจิตของเขา ซึ่งเมื่อมีกุศลเกิดขึ้น ต่อไปก็จะมีผลของกุศลเกิด


    หมายเลข 3323
    4 ส.ค. 2567