สติจริงๆ ต้องเป็นธรรมฝ่ายดี


    มีสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งภาษาไทยเราก็ใช้บ่อย คือ คำว่า “สติ” คงไม่มีใครไม่ใช้คำนี้ใช่ไหมคะ แต่ว่าใช้ผิดอย่างเคย คืออะไรๆก็ต้องผิด เพราะเหตุว่าถ้าไม่เรียนจริงๆ ตามพระพุทธศาสนา และเราก็แปลความหมายเอาเอง อย่างบางคนบอกว่าเดินข้ามถนน รถไม่ชน ก็มีสติ หรือว่าปอกผลไม้ มีดไม่บาด ก็มีสติ แต่ตามความเป็นจริงแล้วสติจริงๆ ต้องเป็นธรรมฝ่ายดี เป็นสภาพธรรมที่มีการระลึกได้ที่เป็นไปในทางกุศลทั้งหมด อย่างวันนี้มีใครคิดให้ทานบ้างหรือยัง ทานที่นี่ไม่ใช่ต้องเป็นวัตถุมโหฬาร ใหญ่โต แม้แต่เพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ให้เพื่อประโยชน์แก่คนอื่น อาจจะเป็นคนที่ไม่มีกระดาษเช็ดมือ แล้วเรามี เราให้ ขณะนั้นก็เป็นทาน เพราะเหตุว่าสิ่งนั้นมีประโยชน์กับผู้รับ แล้วเราก็มีจิตที่ไม่เห็นแก่ตัว คือไม่ลำบากในการที่จะให้คนนั้นเลย มีความเป็นเพื่อน แล้วก็มีการช่วย มีการให้สิ่งนั้นไป ขณะนั้นก็เป็นสภาพของจิตชนิดหนึ่งซึ่งดี ขณะนั้นมีสติเกิดร่วมด้วย จึงเป็นไปในการให้ ถ้าคนไม่มีสติเกิด เห็นคนที่กำลังต้องการกระดาษ แล้วตัวเองก็มี แล้วอยู่ในกระเป๋า ก็ไม่เกิดการคิดที่จะเปิดกระเป๋าแล้วก็หยิบให้ ขณะนั้นก็เป็นธรรมหมด เป็นความตระหนี่ เป็นความเกียจคร้านเป็นอะไรที่เป็นฝ่ายไม่ดี ถ้าธรรมฝ่ายดีคือสติมีการระลึกที่จะเป็นไปในการช่วยเหลือ ในการให้ ขณะนั้นต้องเป็นธรรมฝ่ายดี


    หมายเลข 3361
    26 ส.ค. 2558