คุณนามที่ใครก็มีไม่ได้


    คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะต่างจากคำสอนของบุคคลอื่นโดยสิ้นเชิง เพราะว่าทรงพระปัญญาที่จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อนี้นะคะ ตามพระคุณธรรม ใครก็ตั้งให้ไม่ได้เลย หรือใครจะมีชื่อนี้อย่างนี้อีกสักคนก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นคุณธรรม เป็นคุณนาม

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ทุกคนที่มีกิเลส ไม่อยากจะมีกิเลส พยายามนะคะยิ่งเห็นโทษของกิเลสยิ่งไม่อยากมี แต่ตราบใดที่ไม่มีปัญญาที่จะรู้ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ เพราะเหตุว่าก่อนการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มีผู้ที่มีปัญญาระดับที่ว่า เขาสามารถที่จะเข้าใจได้ว่า เมื่อเห็นแล้วจะเกิดยินดียินร้าย เมื่อได้ยินเสียงก็ยินดียินร้ายในเสียง ไม่ว่าอะไรจะกระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย เขาจะเกิดอกุศล คือ ยินดียินร้าย มีปัญญาที่เขาสามารถที่จะรู้ว่า ถ้าเขาคิดหรือตรึกถึงสภาพธรรมบางอย่าง จิตของเขาก็จะเป็นกุศล

    เพราะฉะนั้นถ้ากุศลจิตเกิดมากขึ้น ก็จะทำให้จิตสงบ ที่ใช้คำว่า “สงบ” หรือ “สมถะ” ก็หมายความว่าสงบจากอกุศล ไม่ใช่สงบเปล่าๆ อยู่ดีๆ บอกสมถะๆ แล้วสมถะคืออะไร ถ้าแปลมาว่าสมถะคือสงบ ก็สงบเปล่าๆอีก แต่ต้องให้รู้ความจริงว่า สงบ คือสงบจากอกุศล คนที่มีอกุศลแล้วก็รู้ว่า ถ้าเขาสามารถที่ตรึกถึงอารมณ์ที่ทำให้จิตของเขาเป็นกุศลเพิ่มขึ้นจนกระทั่งถึงระดับของอุปจารสมาธิหรืออัปปนาสมาธิ ก็ชั่วคราว เพราะเหตุว่าไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ จริงๆเป็นสมุจเฉท คือไม่เกิดอีกเลย


    หมายเลข 3434
    26 ส.ค. 2558