ผลของกรรมมี นรกสวรรค์มี
ขอกล่าวถึงกรรมสูตรที่ ๑ ในอังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผลของกรรม มี และนรกสวรรค์ มี
ข้อความในอังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต กรรมสูตรที่ ๑ ข้อ ๑๙๔ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราไม่รู้แล้ว ย่อมไม่กล่าวความสิ้นสุดแห่งกรรมที่สัตว์ตั้งใจกระทำสั่งสมขึ้น
นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พระผู้มีพระภาคเองตรัสว่า เราไม่รู้แล้ว ย่อมไม่กล่าว แต่เพราะเหตุว่าทรงรู้ว่า ความสิ้นสุดแห่งกรรมที่สัตว์ตั้งใจกระทำสั่งสมขึ้น มี
ทุกคนอาจจะคิดว่า ในชีวิตของแต่ละท่านวันหนึ่งๆ ก็ไม่ได้ทำกรรมอะไร แล้วทำไมสังสารวัฏฏ์ถึงจะมียืดยาวออกไปไม่สิ้นสุด ก็ดูวันนี้ก็เหมือนไม่ได้ทำกรรมอะไร ทุกวันๆ แล้วจะมีเหตุปัจจัยอะไรที่จะทำให้ต้องเกิดอีก ตายอีก เกิดอีก ตายอีก เกิดอีก ตายอีก ไม่สิ้นสุด กรรมทั้งหลายที่ได้กระทำแล้ว ที่สัตว์ทั้งหลายตั้งใจกระทำสั่งสม
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ในชีวิตประจำวัน ถ้าคิดว่าไม่ได้กระทำกรรม ความจริงกระทำแล้ว บางอย่างเป็นกายกรรม บางอย่างเป็นวจีกรรม บางอย่างเป็นมโนกรรมที่ตั้งใจกระทำ แล้วก็ไม่สูญหาย กรรมทุกกรรมที่ได้กระทำแล้ว เกิดดับสะสมสืบต่ออยู่ในจิต เป็นเหตุที่จะให้วิบากเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า
เราไม่รู้แล้ว ย่อมไม่กล่าวความสิ้นสุดแห่งกรรมที่สัตว์ตั้งใจกระทำสั่งสมขึ้น
ถ้าวิบากยังไม่เกิด กรรมจะสิ้นสุดได้ไหมคะ เหตุมีแล้ว ทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง สั่งสมไปอยู่เรื่อยๆ และถ้าผลคือวิบากของกรรมนั้นยังไม่เกิด จะถือว่ากรรม คือ ความตั้งใจกระทำกายกรรมบ้าง วจีกรรมบ้างเหล่านั้นที่สั่งสมอยู่ในจิต จะหมดสิ้นไปได้ไหม ในเมื่อผลยังไม่เกิดขึ้น ไม่ได้ค่ะ เมื่อเหตุ คือ กรรมได้กระทำ และสั่งสมแล้ว ทุกคนก็จะต้องคอยรับวิบาก คือ ผลของกรรมนั้นๆ โดยไม่รู้ตัวเลย ถ้าสติไม่เกิดขึ้น ไม่ระลึก ไม่พิจารณาว่า ได้กระทำอกุศลกรรมอะไรแล้วบ้าง หรือว่าได้กระทำกุศลกรรมอะไรแล้วบ้าง
นี่เป็นเหตุที่ทุกท่านจะต้องพิจารณากาย วาจา ใจของตนเองอย่างละเอียดจริงๆ เพราะเหตุว่าเป็นความตั้งใจที่กระทำกรรมที่สั่งสมเพื่อที่จะให้วิบากเกิดขึ้น จึงเป็นเหตุให้สังสารวัฏฏ์ไม่หมดสิ้น
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ก็วิบากนั้นแล อันสัตว์ผู้ทำ พึงได้เสวยในปัจจุบัน (ทิฏฐธรรมเวทนียะ) ในอัตภาพถัดไป (อุปปัชชเวทนียะ) หรือในอัตภาพต่อๆ ไป (อปราปรเวทนียะ)
เพราะฉะนั้นบางท่านอาจจะกระทำอกุศลกรรมแล้ว ก็คิดว่ายังไม่ได้รับผลของอกุศลกรรม สบายดี พ้นเคราะห์พ้นกรรม แต่ความจริงไม่พ้น เพราะเหตุว่าก็วิบากนั้นแล อันสัตว์ผู้ทำ พึงได้เสวย คือทำให้เกิดผล ได้รับวิบากในปัจจุบัน หรือในอัตภาพถัดไป คือ ในชาติหน้า หรือในอัตภาพต่อๆ ไป เหมือนอย่างในชาตินี้ จะได้รับผลของอกุศลกรรมหรือ กุศลกรรมก็ตามแต่ เป็นผลของกรรมที่ได้สั่งสมมาแล้วในสังสารวัฏฏ์ อาจจะเป็นกรรมในชาตินี้ หรือกรรมในชาติก่อน หรือกรรมในชาติก่อนๆ ๆ โน้นก็ได้