โลภะมีแต่ความต้องการมากมาย
ทุกคนมีจิตใจ แต่ไม่เคยพิจารณาจิต มีแต่ความต้องการ แม้แต่ได้ยินคำว่า “สมถะ”ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรแต่อยากจะทำแล้ว เพราะฉะนั้นความอยาก ขณะนั้นไม่ใช่ความสงบ ความอยากมีหลายอย่าง บางคนก็ชอบรูปสวยๆ บางคนก็ชอบฟังเพลงเสียงเพราะๆ บางคนก็ชอบกลิ่นน้ำหอม เพราะฉะนั้นน้ำหอมนี้ราคาแพงมาก ตามความนิยมหรือตามโลภะของเรา ถ้าเราต้องการกลิ่นนี้แต่ราคาแพงมาก อันนั้นก็เป็นเครื่องวัดโลภะของเราว่า เราต้องการขนาดไหน ต้องการที่จะซื้อหรือต้องการเพียงแต่จะได้กลิ่นนิดหน่อยก็พอ หรืออะไรอย่างนั้น
นี่แสดงให้เห็นว่า โลภะไม่เคยห่างไกลเราตั้งแต่เกิด ทางตาต้องการเห็นสิ่งที่สวยงาม ทางหูต้องการเสียงเพราะ ทางจมูกต้องการกลิ่นหอม ทางลิ้นต้องการรสอร่อย ทางกายต้องการกระทบสัมผัสสิ่งที่สบาย แม้แต่ในห้องนี้เราก็ต้องการอากาศที่เย็นๆสบายๆ เก้าอี้นุ่มๆ ไม่แข็งเกินไป นี่ก็เป็นความต้องการทางกาย ทางใจก็ยังต้องการเรื่องสนุกสนาน ดูทีวี ดูละคร คิดนึกเรื่องนั้นเรื่องนี้
นี่แสดงให้เห็นว่า เรามีแต่การต้องการทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แม้แต่ในเรื่องคำ เช่นคำว่า “สงบ” หรือคำว่า “นิพพาน” ยังไม่ทันรู้เลยว่าแปลว่าอะไร อยากจะได้เสียแล้ว อยากจะทำเสียแล้ว อยากจะถึงเสียแล้ว แล้วอย่างนี้จะเป็นปัญญาได้อย่างไร แต่ว่านี่เป็นโลภะในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเหตุว่าโลภะบางครั้งก็ต้องการกุศล ต้องการอยากจะได้ผลของกุศล อยากจะเป็นคนดี อยากจะเป็นอะไร นั่นก็เป็นเรื่องของโลภะ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องของปัญญา ถ้าเป็นเรื่องของปัญญาแล้วต้องรู้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง