รู้ชัดขึ้น ชินขึ้น ทั่วขึ้น ละเอียดขึ้น
ปัญญาต้องอบรมจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ชัดแจ้งในลักษณะของสภาพธรรมยิ่งขึ้น ละเอียดขึ้น ทั่วขึ้น เพิ่มขึ้น ชินขึ้น หน่ายขึ้น ละขึ้น คลายขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสได้ โดยน้อมไปสู่สภาพธรรมซึ่งไม่ใช่รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นามธรรมและรูปธรรมซึ่งเกิดดับ
เพราะฉะนั้นอย่าหวังเร็วนักนะคะ เพียงแต่ว่าชีวิตปกติประจำวันให้เกิดความรู้จริงในลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ กำลังเห็นเดี๋ยวนี้คะ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สติเกิดไหม ถ้าสติเกิด ระลึกรู้อะไร ตรงลักษณะของสภาพที่กำลังปรากฏหรือเปล่า ถ้าตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตา ต้องไม่มีความวิตกหรือตรึกถึงรูปร่างสัณฐานว่า เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ ในขณะนั้นจึงจะเป็นการรู้สภาพนามธรรมที่เห็น ซึ่งต่างจากการตรึกถึงรูปร่างสัณฐานจนเกิดความคิด ความเข้าใจในสิ่งที่ปรากฏว่า เป็นวัตถุสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือเป็นบุคคลนั้น เป็นบุคคลนี้
นี่คือสภาพธรรมที่ปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ต้องอบรมเจริญปัญญา อย่าคิดที่จะกิเลสโดยที่ปัญญาไม่เกิด ถ้าปัญญาไม่เกิดแล้วก็ละกิเลสไม่ได้ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องไปคิดว่าจะละกิเลสเมื่อไร เมื่อไรจะละได้ เพราะเหตุว่ารู้ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏแล้วหรือยัง แล้วทำอย่างไรถึงจะรู้เพิ่มขึ้น ชินขึ้น ชัดขึ้น ทั่วขึ้น ละเอียดขึ้น