ปัญญาเท่านั้นที่รู้หนทางสงบ
ความสงบขอให้มีเชื้อเป็นทุนอยู่เรื่อยๆ เพื่อที่เมื่ออารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดของสมถภาวนาปรากฏ จิตของท่านสามารถสงบ และอาจจะสงบมั่นคงขึ้น เพราะว่ามีปัจจัยในการที่เคยมีปัจจัยอบรมความสงบเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ด้วยปัญญาที่รู้ลักษณะของความสงบ
เพราะฉะนั้น ขณะที่จะกระทำกายหรือวาจาด้วยโลภะ หรือด้วยอกุศลใดๆ ก็ตาม ให้ระลึกว่า ขณะนั้นสงบไหมเสียก่อน เท่านี้ค่ะ แล้วก็จะรู้ว่า ถ้าปัญญาเกิดในขณะนั้น จะรู้วิธีว่า ทำอย่างไรจิตจึงจะสงบแม้ในขณะนั้น นั่นคือปัญญาที่รู้หนทางวิธีที่จะสงบ ต้องเป็นปัญญาที่รู้ว่าจะสงบอย่างไร แล้วความสงบจึงจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่ถ้าในขณะนั้นปัญญาไม่เกิด ไม่รู้ลักษณะที่ต่างกันของความสงบ ก็จะมีความต้องการความสงบอื่น เช่น อานาปานสติเป็นอย่างไร มุ่งที่จะไปหาอานาปานสติ โดยคิดว่าจะสงบ โดยคิดว่าจะไปจดจ้องที่ลมหายใจ โดยไม่รู้ลักษณะที่ว่า ขณะจะฆ่าสัตว์ ขณะที่ทำทุจริต ขณะที่เป็นอกุศลจิต ขณะนั้นจิตจะสงบได้อย่างไร ถ้าปัญญารู้หนทาง ความสงบก็เกิดขึ้นบ่อยๆ เนืองๆ และหนทางที่เป็นถึงอุปจารสมาธิกับอัปปนาสมาธิก็แสนไกล ยากที่จะถึงได้
เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกท่านพิจารณาตัวท่านเองว่า ตามความเป็นจริงแล้วท่านเป็นผู้สมควรที่ฌานจิตจะเกิดไหม ถ้าไม่สมควร เรื่องอะไรจะไปพากเพียรด้วยความต้องการทำ โดยไม่สะสมเหตุปัจจัยคือความสงบเท่าที่จะมีได้ในชั่วขณะหนึ่งๆ แทนอกุศลจิตซึ่งเกิดอยู่บ่อยๆ