สติขั้นทาน ศีล ความสงบ สติปัฏฐาน


    ผู้ที่มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐานสามารถรู้ได้ว่า ขณะใดเป็นสติขั้นทาน ขั้นศีล ขั้นความสงบ หรือขั้นสติปัฏฐาน เลือกไม่ได้เลยที่ทานจะเกิดขึ้นโดยไม่ประกอบด้วยสติปัฏฐาน เพราะเหตุว่ากุศลจิตแต่ละขณะนั้นสั้นมาก เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว เป็นทานไปแล้ว แต่สติไม่ได้ระลึกรู้ว่า แม้ขณะนั้นก็ไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้น ก็เป็นทานที่ไม่ประกอบด้วยสติปัฏฐาน หรือว่าเป็นศีล การวิรัติทุจริตโดยไม่ประกอบด้วยสติปัฏฐาน หรือบางครั้งสติก็ระลึกรู้ในขณะที่กำลังให้ทานในขณะที่วิรัติทุจริต เป็นสติปัฏฐาน

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐานจริงๆ เห็นความ.เป็นอนัตตาของสภาพธรรมทั้งหลายว่า เลือกไม่ได้ เจาะจงไม่ได้ บางครั้งเป็นความสงบ เป็นสมถะ บางครั้งเป็นทาน บางครั้งเป็นศีล บางครั้งเป็นสติปัฏฐาน แล้วแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยทั้งสิ้น ไม่มีตัวตนที่บังคับยับยั้งได้

    เพราะฉะนั้น ไม่มุ่งหวังฌานจิต ไม่มุ่งหวังสมถะหรือความสงบถึงขั้นอัปปนาสมาธิ หรือแม้แต่อุปจารสมาธิ ถ้าเป็นในลักษณะนั้น ความสงบก็จะเกิดบ่อยๆ เนืองๆ เป็นพื้นฐาน เป็นปัจจัย ถ้ามีปัจจัยที่จะเกิดอุปจารสมาธิเมื่อไร พร้อมเมื่อไร อุปจารสมาธิก็เกิดพร้อมความสงบได้

    เพราะฉะนั้น ขอให้รู้ชั่วขณะที่สงบเสียก่อน และเมื่อความสงบเพิ่มกำลังขึ้น ท่านจะเข้าใจความหมายของความสงบที่ประกอบด้วยสมาธิที่มั่นคง ซึ่งผิดกับขณะที่ต้องการเหลือเกินที่จะจดจ้องต้องการเหลือเกินให้ยิ่งกว่านี้อีก ต้องการเหลือเกินที่จะจดจ้องให้มากกว่านี้อีก เป็นความต้องการโดยไม่รู้สภาพที่ต่างกันของขณะที่สงบ และขณะจิตที่สงบประกอบด้วยสมาธิที่เพิ่มขึ้น เพราะเหตุปัจจัย


    หมายเลข 3658
    3 ส.ค. 2567