การเซ่นสรวงที่ไม่มีผลเป็นอย่างไร


    ผู้ฟัง การเซ่นสรวงที่ไม่มีผล เป็นอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ขอกล่าวถึงคำอธิบายในอัฏฐสาลินี นิทเขปกัณฑ์ อธิบายนิทเทสของทิฏฐุปาทาน ซึ่งมีข้อความเรื่องมโนกรรม ๓ ในข้อของทิฏฐิ ซึ่งแสดงว่า เป็นผู้มีความเห็นผิด คือ มีความเห็นอันวิปริตว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล แสดงว่าการให้ หรือทาน มี เมื่อโลกนี้มี การให้ซึ่งกัน และกันย่อมมี การให้ซึ่งเป็นทานย่อมมี แต่สำหรับผู้ที่เห็นผิด ไม่ใช่เห็นว่าทานไม่มี แต่เห็นว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล คือ ทาน การให้ มี แต่ผลของทานไม่มี บางคนถึงกับพูดว่า ถึงให้ก็ยิ่งหมด ยิ่งให้ก็ยิ่งยากจน นี่แสดงให้เห็นว่า ทานที่ให้ไปแล้วนั้นไม่มีผล นี่ก็เป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง

    การเซ่นสรวงไม่มีผล สำหรับการเซ่นสรวง หมายถึงมงคลกิริยา ได้แก่การคำนับ การต้อนรับ การแสดงมารยาทที่สมควร บางคนก็คิดว่าไม่มีผล แสดงว่า การคำนับ การต้อนรับมี แต่ผลของการคำนับหรือการต้อนรับ ซึ่งเป็นมงคลกิริยานั้นไม่มี แต่ความจริงทุกอย่างที่ทำให้เกิดการกระทำทางกาย ทางวาจา ถ้าพิจารณาดูแล้วจะเห็นได้ว่า ที่เป็นอกุศลนั้นอย่างหนึ่ง และที่เป็นกุศลนั้นอย่างหนึ่ง ต่างกันจริงๆ ถ้าเห็นใครต้อนรับใครด้วยใจจริง เป็นกุศลจิตหรือเปล่าของบุคคลซึ่งต้อนรับ แสดงกิริยาที่เป็นมงคลในการต้อนรับ ขณะนั้นเป็นกุศลจิตหรือเปล่า ถ้าเป็นด้วยใจจริง ขณะนั้นก็ต้องเป็นกุศล แต่ถ้าเป็นอกุศลก็ตรงกันข้าม ไม่มีมงคลกิริยา ไม่แสดงอาการต้อนรับใดๆ ในขณะนั้นก็ส่องไปถึงสภาพของจิตขณะนั้นว่า จิตในขณะนั้นหยาบกระด้าง หรือว่าเป็นอกุศล ขาดความเมตตา

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นมงคลกิริยา คือ การคำนับ การต้อนรับของบุคคลทั้งหลายในโลกที่มีต่อกัน รู้ว่า มงคลกิริยาเหล่านั้นมี แต่ผลของมงคลกิริยาเหล่านั้นไม่มี แต่ความจริงแล้วเรื่องของกุศลจิต และอกุศลจิตย่อมเป็นเหตุให้เกิดผล โดยเฉพาะขึ้นอยู่กับความตั้งใจที่เป็นกุศล หรือที่เป็นอกุศล ถ้าเป็นความตั้งใจที่เป็นอกุศล ก็เป็นกรรมที่ทำให้เกิดวิบาก ถ้าเป็นความตั้งใจที่เป็นกุศล ก็โดยนัยเดียวกัน ทั้งอกุศลกรรม และกุศลกรรมย่อมทำให้เกิดผล


    หมายเลข 3661
    28 ก.ค. 2567