มารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร
เมื่อทราบว่า มารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร คือเป็นผู้ให้กำเนิด ถ้าไม่มีมารดาบิดา คนนั้นเกิดมาในโลกนี้ไม่ได้ ที่คนนั้นจะเกิดมาในโลกจนกระทั่งมีเงินมีทอง ไม่ว่าจะเป็นวัยกลางของชีวิตก็ตามแต่ อย่าลืมว่าเพราะบิดามารดาเป็นพรหม คือ เป็นผู้ให้กำเนิด
เรื่องของบิดามารดาเป็นเรื่องของตัวท่าน แต่เรื่องของบุตร เป็นเรื่องที่จะต้องรู้จักพระคุณว่า มารดาบิดาเป็นผู้ที่มีคุณโดยสถานหนึ่งสถานใด ไม่ว่าจะเป็นโดยเป็นพรหม คือ ผู้ให้กำเนิด หรือเป็นบุรพาจารย์ คือ เป็นครูคนแรกในชีวิตที่จะสั่งสอนลูกแม้แต่ให้เดิน ให้รับประทานอาหาร ให้แต่งตัว ให้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง หรือว่าเป็นบุรพเทพหรือเป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตร คือ ผู้ที่ควรจะได้รับของที่บุตรจะนำมาให้เป็นการบูชา
เพราะฉะนั้นเรื่องของบุตรต้องเป็นเรื่องของบุตร ไม่จำเป็นต้องไประลึกถึงบิดามารดาในทางส่วนตัวของท่าน ว่าท่านจะไม่ทำหน้าที่นั้น จะเป็นด้วยเคราะห์กรรมของบุตรนั้นเอง ใช่ไหมคะ หรือว่าจะต้องไปคิดว่าเป็นการกระทำของบิดามารดาซึ่งไม่สมควร เรื่องของใครก็ต้องเป็นเรื่องของคนนั้น ในเมื่อเป็นบุตรก็ควรจะทำหน้าที่ของบุตร ส่วนบิดามารดาจะมีเคราะห์กรรมที่ทำให้ต้องพลัดพรากจากกันอย่างไร ก็ต้องเป็นเรื่องของบุตรด้วย ถ้าบุตรทำกรรมมาดี ก็จะไม่มีการพลัดพรากจากบิดามารดา ก็ย่อมจะได้รับการอุปถัมภ์อุปการะจากบิดามารดา ก็ควรจะคำนึงถึงกรรมของตน และไม่ควรสร้างกรรมต่อไป โดยการที่ไม่เห็นคุณของบิดามารดา