ชวนจิตของคนที่สลบเป็นอย่างไร


    พระคุณเจ้า ในกรณีที่คนสลบไปนานๆ อย่างที่เขาเรียกกันว่า เจ้าชายนิทรา วาระจิตของเขาจะเป็นอย่างไร จะตกภวังค์ หรือว่าจะขึ้นสู่วิถี

    ท่านอาจารย์ ถ้าพูดถึงสภาพธรรม เราจะพูดถึง จิต เจตสิก รูป ทุกสถานการณ์ ขณะใดที่ไม่มีการเห็น การได้ยิน ก็หมายความว่าไม่รู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย แต่ถ้ายังคิดนึกอยู่ ก็หมายความว่าเป็นวิถีจิตแล้ว ไม่ใช่ภวังคจิต

    พระคุณเจ้า ในกรณีที่เป็นเสขบุคคล เช่นพระโสดาบัน ท่านก็มีความโลภ เหมือนปุถุชน แต่ว่าท่านละความโลภบางอย่างไปได้แล้ว แต่ในกรณีที่ว่าท่านยังมีความโลภหลงเหลืออยู่ แล้วการใช้ชีวิตเหมือนกับปุถุชนจะได้รับวิบากอะไรเหมือนกันไหม

    ท่านอาจารย์ ไม่เกิดในอบายภูมิอีกต่อไป

    เรื่องสำคัญๆ ทางตา หูจมูก ลิ้น กาย ที่เป็นผลของกรรม ก็เป็นที่เข้าใจแล้ว ว่าเมื่อมีกรรมซึ่งเป็นเหตุในอดีต ก็ต้องมีผลซึ่งขณะที่เห็น ได้ยิน เหล่านี้ ก็ให้ทราบว่าเป็นผลของกรรม แต่ว่าหลังจากเห็นแล้ว ได้ยินแล้ว ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็จะต้องเป็นกุศลหรืออกุศล ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะต้องพิจารณาว่า ความสำคัญของการที่เห็น สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม หลังจากที่เห็นแล้วจิตเป็นกุศลหรืออกุศล ต่อไปนี้ก็จะได้รู้ด้วยตัวเองใช่ไหม เพราะว่าคนอื่นไม่สามารถที่จะบอกจิตใจของเราได้ว่าเวลาเห็นแล้วเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล เพราะฉะนั้นกุศล และอกุศลซึ่งจะเป็นการสะสมสืบต่อเป็นอุปนิสัยต่อไป ที่จะทำให้สะสมกุศลประเภทต่างๆ หรือว่าอกุศลประเภทต่างๆ ก็จะทำให้เป็นบุคคลนั้นในการต่อไป โดยไม่สิ้นสุด จนกว่าจะถึงกาลที่สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมเป็นพระอริยบุคคล ก็จะดับกิเลสตามลำดับขั้น

    เพราะฉะนั้นก็น่าสนใจในเรื่องของจิตประเภทที่เป็นกุศลหรืออกุศล ขณะนี้เป็นกุศลประเภทไหน หรือว่าเป็นอกุศลประเภทไหน เพราะว่าเห็น ได้ยิน เราก็ทราบแล้วว่าขณะนี้เป็นผลของกรรม ซึ่งใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้


    หมายเลข 3811
    21 พ.ย. 2567