มโนกรรมทวาร


    ซึ่งข้อความในอัฏฐสาลินี จิตตุปาทกัณฑ์ว่าด้วยมโนกรรมทวาร มีข้อความว่า

    กุศลเจตนา และอกุศลเจตนา ๒๙ คือ อกุศลจิตมี ๑๒ ดวง ได้แก่ โลภมูลจิต ๘ ดวง โทสมูลจิต ๒ ดวง โมหมูลจิต ๒ ดวง รวมเป็นอกุศลจิต ๑๒ ดวง และมหากุศลจิต ๘ ดวง รวมเป็น ๒๐ ดวง รูปาวจรกุศลจิต คือ รูปฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ รวมเป็น ๕ ดวง และอรูปาวจรกุศลจิตอีก ๔ ดวง รวมเป็นรูปาวจรกุศลจิต และอรูปาวจรกุศลจิตเป็นมหคตกุศลจิต ๙ ดวง รวมทั้งหมดก็เป็นกุศลเจตนา และอกุศลเจตนา ๒๙ อันเป็นไปในภูมิ ๓ คือ กามภูมิ รูปพรหมภูมิ และอรูปพรหมภูมิ ชื่อว่า มโนกรรม และมโนทวาร

    หมายความว่าจิตทุกดวงที่เป็นอกุศลประกอบด้วยเจตนาเจตสิก เพราะฉะนั้นจิตทุกดวงที่เป็นกุศล และอกุศล โดยที่ยังไม่กระทำกรรมทางหนึ่งทางใด กุศลเจตนา และอกุศลกรรมเจตนาทั้งหมดนั้นชื่อว่า มโนกรรม ในขณะที่ยังไม่ได้กระทำกรรมทางกายหรือทางวาจา

    นี่ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดมากที่จะพิจารณาว่า กำลังของอกุศลย่อมเพิ่มขึ้นจากโลภมูลจิตธรรมดา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ เมื่อมีการเห็นแล้วที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดโลภมูลจิต ไม่มีใครสามารถที่จะยับยั้งปัจจัยที่จะไม่ให้โลภมูลจิตเกิดเมื่อเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะเหตุว่ามีการสะสมโลภะเนิ่นนานมาในสังสารวัฏฏ์ จนกระทั่งเป็นธรรมที่เป็นปกติที่มีกำลังที่โลภะจะเกิดขึ้น เมื่อมีการเห็นสิ่งที่พอใจ แต่ว่าในขณะนั้นเป็นอกุศลเจตนาแล้ว เพราะเหตุว่าเกิดกับอกุศลจิต

    เพราะฉะนั้นการที่จะกล่าวว่าเป็นกรรมบถ เป็นทาง หรือเป็นคติที่จะให้เกิดผลข้างหน้า ก็ต้องพิจารณาว่า ต้องเป็นทุจริตกรรมด้วย ไม่ใช่เป็นแต่เพียงโลภมูลจิตเกิดขึ้นก็จะเป็นกรรมทั้งหมด เป็นกรรมบถที่เป็นทางไปสู่อบายภูมิ แต่ต้องมีกำลังขึ้นจนถึงกับกระทำกรรมทางหนึ่งทางใด คือ ที่ชื่อว่าเป็นกายกรรมเพราะเรียกตามทวาร หรือเพราะเหตุว่าการกระทำนั้นส่วนมากสำเร็จโดยทวารนั้น เช่น ปาณาติบาต การฆ่า ทุกคนต้องทราบว่าต้องสำเร็จลงด้วยกายกรรม ต้องมีการกระทำทางกาย ถ้าไม่มีการกระทำทางกาย ปาณาติบาตก็สำเร็จไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะสำเร็จโดยวจีทวาร คือการใช้คนอื่นให้ทำก็จริง แต่ที่การสิ้นชีวิตจะมีได้ ก็ต้องอาศัยการกระทำทางกาย เป็นกายกรรม เพราะฉะนั้นเมื่ออาศัยกาย ปาณาติบาตจึงเป็นกายกรรม เพราะว่าส่วนมากเกิดทางกายทวาร

    เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาโดยละเอียดจริงๆ ที่จะแยกเรื่องของกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ซึ่งถ้าท่านผู้ใดสนใจก็สามารถที่จะศึกษาค้นคว้าได้จากอัฏฐสาลินี จิตตุปาทกัณฑ์ ว่าด้วยกรรม และว่าด้วยมโนกรรมทวาร เพราะเหตุว่าข้อความละเอียดก็มีกล่าวว่า มโนกรรมที่เป็นอกุศลย่อมเกิดขึ้นได้ทางทวารทั้ง ๓

    อันนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสำหรับทางฝ่ายอกุศล กายกรรมเกิดได้ทางกาย และทางวาจา วจีกรรมก็เกิดโดยนัยเดียวกัน คือเกิดทางกายทวารก็ได้หรือทางวจีทวารก็ได้ แต่สำหรับมโนกรรมนั้นกว้างขวางกว่า คือเกิดได้ทั้งกายทวาร วจีทวาร และมโนทวาร สำหรับอกุศลกรรม ถ้าเป็นทางฝ่ายกุศล กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เกิดได้ทั้ง ๓ ทวาร

    นี่ก็เป็นเรื่องที่ท่านผู้ใดสนใจในเรื่องของกรรม ก็ต้องศึกษาอีกต่อไป


    หมายเลข 3854
    2 ส.ค. 2567