กายทวาร วจีทวาร มโนทวาร


    สำหรับมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด วันนี้ทั้งวัน ท่านผู้ฟังพูดเรื่องความเห็นบ้างหรือยังคะ ตั้งแต่เช้ามา คิดเรื่องความเห็นบ้างหรือเปล่า บาปไม่มี บุญไม่มี คิดอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ตั้งแต่เช้า หรือไม่ได้คิดอะไร ก็มีชีวิตดำเนินไปตามปกติประจำวัน แต่เวลาที่กุศลจิตเกิด ขอเปลี่ยนจากอกุศลเป็นกุศล เวลาที่ท่านผู้ฟังมาฟังธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิทางกายทวาร ได้ไหมคะ และถ้ามีการมาฟังสนทนาธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิทางวจีทวาร คงจะไม่นั่งเฉยๆ แล้วก็นั่งคิดเอาๆ เรื่องของบาป เรื่องของบุญ เป็นชั่วโมง เป็นนาทีว่า บาปมี บุญมี หรือบางท่านอาจจะคิดว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นั่งคิดไปเป็นชั่วโมงอย่างนี้ ไม่ทราบจะมีท่านผู้ใดทำอย่างนี้หรือเปล่า แต่เข้าใจว่าเวลาที่มีความเห็นผิดเกิดขึ้น จะมีทวารของความเห็นผิดด้วย คือ เป็นกายทวาร หรือวจีทวาร หรือแม้ว่าไม่ใช่ความเห็นผิด ท่านผู้ฟังลองพิจารณาคำพูดของท่าน ท่านคิดอย่างไร ท่านพูดอย่างนั้น ไม่ค่อยจะเก็บเอาไว้ใช่ไหมคะ บางท่านพูดไปแล้วเสียใจ ถ้าคิดเสียก่อนที่จะพูดก็จะดีกว่า แต่ว่าโดยมากพอคิดก็พูดเลย ใช่ไหมคะ

    เพราะฉะนั้นเมื่อท่านผู้ฟังมีความเห็นอย่างไร ในขณะนั้นเป็นเวลาที่ขณะที่ท่านจะพูดถึงความเห็นนั้น ถ้าจะเป็นเรื่องบาปบุญคุณโทษต่างๆ ก็มีวจีทวาร เป็นทวารของมโนกรรม คือ มิจฉาทิฏฐิหรือสัมมาทิฏฐิ ในการสนทนาธรรมย่อมมีบางคนเป็นสัมมาทิฏฐิ บางคนก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ โดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติธรรม

    เพราะฉะนั้น จะไม่นั่งเฉยๆ เงียบๆ แล้วก็คิด แต่จะแสดงความเห็นออกไป โดยเป็นวจีทวารของสัมมาทิฏฐิหรือมิจฉาทิฏฐิ แต่บางท่านก็คิดถึงเรื่องมิจฉาทิฏฐิอยู่บ่อยๆ และนานๆ เป็นอัธยาศัย เพราะบางท่านอาจจะเป็นผู้ที่ไม่พูด แต่ก็คิด แต่ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ท่านจะพิจารณาว่า ชีวิตประจำวันจริงๆ ในวันหนึ่งๆ ท่านทำอย่านี้บ่อยหรือเปล่า คือนั่งคิดเรื่องกรรมไม่มี โลกนี้โลกหน้าไม่มี หรือว่าในวันหนึ่งๆ ชีวิตจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น จนกว่าจะมีการสนทนาหรือการแลกเปลี่ยนความคิดกัน แล้วในขณะที่ท่านคิดอย่างไร ด้วยจิตอย่างไร ก็มีวจีทวารเป็นทางของมโนกรรม คือ มิจฉาทิฏฐิหรือสัมมาทิฏฐิในขณะนั้น


    หมายเลข 3856
    2 ส.ค. 2567