จิตเกิดขึ้นตามอำนาจของเหตุและปัจจัย
อ.วิชัย จิตเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ซึ่งถ้าไม่ศึกษาเลย ก็จะไม่รู้ว่าขณะนี้ ชวนจิตเป็นกุศลหรืออกุศลแล้ว เพราะเหตุว่าแต่ละท่านก็สั่งสมมาที่จะมีการ กระทำต่างๆ แล้วก็สั่งสมที่จะเป็นไปในกุศลบ้าง หรือว่าอกุศลบ้าง แต่ว่า สภาพจิตทั้งหมดเกิดขึ้นตามอำนาจของเหตุ และปัจจัย อย่างเช่น แม้ขณะเห็นถ้าจิตเห็นไม่เกิด ก็จะไม่มีความรู้ หรือว่าสภาพรู้ทางตาได้เลย ก็ให้เห็นถึงว่า มีสภาพมีเหตุปัจจัยที่จะให้จิตที่เป็นนามธรรมเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา ซึ่งเราไม่สามารถจะกระทำให้มีการเห็นเกิดขึ้นได้เลย ถ้าขาดเหตุปัจจัย เพราะเหตุว่าไม่มีตัวเราที่จะเป็นกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ แต่ว่ามีจิตซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ เป็นปรมัตถธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เมื่อมีปัจจัยพร้อม จิตเห็นถึงเกิดขึ้น
สำหรับหลังจากการเห็นแล้ว จิตที่เป็นชวนะก็เกิดขึ้น ก็กล่าวถึงตามลำดับของจิต เพราะเหตุว่าถ้ากล่าวถึงจิตเห็นดับแล้ว ก็จะมีจิตอื่น แต่ว่าเว้นที่กล่าวถึงในขณะที่เป็นชวนะ ที่เป็นกุศลหรืออกุศลสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ เกิดขึ้นแล้วตามเหตุปัจจัย ซึ่งถ้าเราทราบถึงว่า เมื่อชวนจิตขณะนี้ พอจะทราบไหมว่าเป็นกุศลหรืออกุศล เพราะเหตุว่าขณะนี้ แม้นั่งอยู่ก็สามารถจะคิดแม้เรื่องอื่นได้ ซึ่งก็เห็นถึงว่าอำนาจของเหตุปัจจัยจริงๆ แม้ขณะที่ฟัง การคิดถึงเรื่องอื่น การตรึกถึงเรื่องอื่น ก็เป็นไปได้ อันนี้ก็เห็นถึงอำนาจของเหตุปัจจัย ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาเลย สำหรับกุศล และอกุศลก็เกิดขึ้นตามการสั่งสมที่ได้สั่งสมมาแล้ว ด้วยอำนาจของปัจจัยอะไร สำหรับผู้ที่ศึกษาปัจจัยแล้ว ก็เห็นถึงว่าถ้าไม่มีอกุศลที่เกิดก่อนๆ อกุศลขณะนี้จะเกิดได้ไหม
สำหรับผู้ที่อาจจะมักขุ่นเคืองใจ ถ้ามีเหตุปัจจัยคือประสบอารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ความโกรธที่เกิดขึ้นมีมาได้อย่างไร ก็เป็นสิ่งที่น่าคิด ถ้าไม่ได้สั่งสมมาแล้ว ความโกรธจะมีได้ไหม หรือว่าถ้ายังมีอนุสัยอยู่ ความโกรธเมื่อได้เหตุปัจจัยจะเกิดขึ้นได้ไหม ถ้ายังไม่ดับ ก็เห็นถึงว่าเหตุปัจจัยทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้ามีเหตุปัจจัยพร้อมที่จะให้เกิด แม้กุศลจิต ขณะนี้ทุกท่านฟังธรรม ขณะที่เข้าใจก็เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา เพราะเหตุว่าเมื่อฟังเข้าใจแล้ว ขณะนั้นเป็นสภาพของปัญญาที่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง อย่างนี้ก็เห็นถึงเหตุปัจจัยที่ไม่ได้กระทำเลย แต่ว่าเมื่อมีแล้วก็เกิดแล้วตามอำนาจของเหตุปัจจัย