อรูปฌานขั้นสูงสุด ได้นิโรธสมาบัติ
ท่านผู้ฟังคงได้ยินคำว่า “นิโรธสมาบัติ” คือ ขณะที่พระอนาคามีบุคคลหรือพระอรหันต์ ผู้ได้บรรลุถึงอรูปฌานขั้นสูงสุด คือ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ในขณะนั้นจิตเป็นสภาพที่ละเอียดมาก และมีอารมณ์ที่ละเอียดมาก เพราะเหตุว่าอารมณ์ของจิตในขณะนั้นเป็นสัญญาอย่างละเอียดของอากิญจัญญายตนจิต คือ อรูปฌานที่ ๓ สัญญาในอรูปฌานที่ ๓ เป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้นก็เป็นสภาพที่ประณีต และละเอียดมาก
ถ้าพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนะ เข้านิโรธสมาบัติ หมายความว่าดับจิต และเจตสิกไม่มีจิต และเจตสิกเกิดเลยชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งแล้วจะเป็นกำหนดกี่วันแต่ว่าไม่เกิน ๗ วัน ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติจะดับจิต และเจตสิกได้ไม่เกิด ๗ วัน ในขณะนั้นมีรูปซึ่งเกิดเพราะกรรมแม้ว่าไม่มีจิตเลยมีรูปซึ่งเกิดเพราะอุตุมีรูปซึ่งในขณะนั้นเกิดเพราะสมุฏฐานอื่น แต่ไม่ใช่มีรูปซึ่งเกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน
นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ารูปไม่เป็นอนันตรปัจจัย เพราะเหตุว่ารูปที่ดับไปแล้วไม่ได้เป็นปัจจัยให้รูปอื่นเกิดต่อ แต่ที่รูปอื่นเกิดนั้นเพราะสมุฏฐานหนึ่งสมุฏฐานใด ได้แก่ มีจิตเป็นสมุฏฐาน หรือมีกรรม หรืออุตุ หรืออาหารเป็นสมุฏฐาน