มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดที่ดิ่งลง
และสำหรับมิจฉาทิฏฐิ ต้องเป็นความเห็นที่ดิ่งมั่นคงว่า การกระทำนั้นไม่ใช่กรรมที่จะให้เกิดผล ได้แก่ มิจฉาทิฏฐิ ๓ อย่าง ถึงจะทำให้อกุศลกรรมบถแตกหรือขาด เชื่อว่าผลของกรรมไม่มี เชื่อว่ากรรมไม่มี เชื่อว่าการกระทำนั้นไม่เป็นกรรม
พิจารณาจิตสะดวกกว่า ง่ายกว่า ใช่ไหมคะ ถ้าอกุศลจิตเกิดขึ้น ก็รู้ว่าลักษณะสภาพธรรมนั้นเป็นสภาพของอกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ถ้าพิจารณาบ่อยๆ เนืองๆ ก็จะทำให้ไม่กังวล และไม่ห่วงเรื่ององค์ของกรรมบถต่างๆ เพราะเหตุว่าสตินั้นสามารถที่จะระลึกรู้ความมีกำลังขึ้นของอกุศลได้
ถ้าสติเกิดในขณะนี้ พอที่จะรู้ลักษณะของกุศล และอกุศลไหมคะ ค่อยๆ รู้ไปในลักษณะของรูปธรรม และนามธรรม ยังไม่ต้องห่วงว่ายังไม่สามารถที่จะแยกได้ว่า ขณะนี้เป็นกุศลจิต ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต ขณะนั้นเป็นวิบากจิต เป็นกิริยาจิต แต่ว่าการที่สติระลึกเพื่อที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะเป็นลักษณะของสภาพรู้ ซึ่งใช้คำว่า “นามธรรม” หรือเป็นลักษณะที่ไม่ใช่สภาพรู้ที่กำลังปรากฏทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย ต้องค่อยๆ รู้ไปในลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม กว่าที่จะรู้ว่า ขณะใดเป็นกุศลจิต ขณะใดเป็นอกุศลจิต