ปฏิสนธิจิต กับ สหชาตปัจจัย
อ.ธิดารัตน์ เมื่อกรรมที่สุกงอมแล้ว เป็นชนกกรรมให้ผล ให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นเป็นจิตชาติวิบาก นอกจากกรรมนั้นจะเป็นปัจจัยให้วิบากจิตเกิดแล้ว ยังเป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้นในขณะที่ปฏิสนธิอีก ๓ กลุ่ม ตามที่ทรงแสดงว่า ปฏิสนธิจิต และกัมมชรูป ทั้ง ๓ เกิดขึ้นพร้อมกัน ก็ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย เพราะว่าเกิดขึ้นพร้อมกัน ในขณะเดียวกัน ส่วนกัมมชรูปทั้ง ๓ กลุ่ม ได้แก่กลุ่มที่เป็นกายทสกะ คือกลุ่มของกาย ๑๐ รูป ภาวทสกะ คือกลุ่มของรูปที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหนึ่งกลุ่ม และหทยรูปหรือหทยวัตถุ เป็นหทยทสกะ อีกหนึ่งกลุ่ม ทั้ง ๓ กลุ่ม จะเกิดขึ้นพร้อมกับปฏิสนธิจิต โดยสหชาตปัจจัย โดยการเกิดพร้อมกัน
ท่านอาจารย์ เพียงเข้าใจได้ ก็คือว่าในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องทำให้เจตสิกเกิดพร้อมกันด้วย และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กรรมนั้นก็ทำให้รูปเกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นรูปที่เกิดจากกรรมเป็นปัจจัย รูปนั้นก็เป็นปัจจยุบันของกรรม และเจตสิกซึ่งเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตขณะนั้นก็เกิดเพราะกรรมเดียวกัน ที่ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเจตสิกซึ่งเป็นวิบากก็เกิดขึ้นเพราะกัมมปัจจัย
พอจะเข้าใจได้ว่าในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดพร้อมกับเจตสิกซึ่งเป็นวิบาก แล้วก็ทำให้รูปซึ่งเกิดเพราะกรรมนั้นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี่ รูปร่างเหมือนกันหรือเปล่า อะไรทำให้เป็นอย่างนั้น กรรมทำให้แตกต่างกันไป สูง ต่ำ ดำ ขาว หรืออะไรก็แล้วแต่ ยังมีสัตว์อีกมากมายใช่ไหม ใครก็ทำให้สัตว์เหล่านั้นเปลี่ยนรูปไม่ได้เลย เพราะว่ากรรมทำให้ปฏิสนธิของสัตว์นั้นเกิดพร้อมกับรูปนั้นๆ ซึ่งตอนที่เกิดรูปนั้นยังไม่ใหญ่โต เล็กเท่ากันหมดเลย คือมองไม่เห็น แต่ว่าภายหลังก็เจริญเติบโตขึ้น ก็จะทำให้ตามกรรม ก็คือมีปีกบ้าง ไม่มีปีกบ้าง มีเท้าบ้าง ไม่มีเท้าบ้าง มีสองเท้าบ้าง มีหลายๆ เท้าบ้าง โดยที่ว่าทั้งหมดนั้น ก็คือกรรมเป็นปัจจัย