ปัญญารู้อะไรในสมถภาวนา
มีหลายท่าน ซึ่งคงจะได้เจริญสมาธิมาแล้ว แล้วก็คิดว่าขณะนั้นเป็น สมถภาวนา แต่ว่า ขอให้ท่านพิจารณาว่า ปัญญารู้อะไร ในขณะนั้น จึงจะสงบ จึงจะเป็น สมถภาวนา ถ้าขณะนั้นไม่ได้รู้อะไรเลย จะเป็นความสงบไม่ได้ และการที่จะรู้ ต้องรู้ลักษณะของจิตตามความเป็นจริงของท่าน ไม่ใช่ของบุคคลอื่น เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญสมถภาวนา ไม่ใช่ว่าอ่านวิสุทธิมรรค หรือว่าพระไตรปิฎก แล้วก็รู้ว่า อารมณ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมถภาวนานั้น มีอะไรบ้าง เพียงอ่านแล้วก็ไปใช้อารมณ์นั้น เช่น รู้ว่าอารมณ์ของสมถภาวนานั้นได้แก่กสิณ ๑๐ ท่านก็จะไปดู ไปจ้อง ที่กสิณ แล้วก็คิดว่าจิตจะสงบขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย จิตอาจจะเป็น สมาธิ แต่ไม่ใช่กุศลจิตซึ่งเป็นความสงบ เพราะฉะนั้น ความสงบนี่คะ ไม่ใช่อยู่ที่อารมณ์ คือไม่ใช่อยู่ที่กสิณ ไม่ใช่ว่าใครก็ตาม จะไปดูไปจ้องที่กสิณ แล้วจะสงบทุกคน ไม่ใช่อย่างนั้น คะ แต่ว่าบุคคลใดซึ่งมีปัญญารู้เหตุที่จิตสงบเพราะ ระลึกอยู่ที่กสิณซึ่งเป็นอารมณ์ในขณะนั้นด้วยปัญญา และรู้ลักษณะสภาพของจิตที่สงบจริงๆ ในขณะนั้น ซึ่งเป็นกุศล ลักษณะของกุศลจิต สงบ เมื่อจิตเป็นกุศล ก็รู้ในลักษณะที่สงบของจิต ซึ่งเป็นกุศล และความสงบ เพิ่มขึ้น เพราะระลึกรู้อยู่ที่อารมณ์ที่ทำให้จิตสงบได้นาน เพราะฉะนั้น ความสงบที่ประกอบด้วยสมาธิ ที่ตั้งมั่น และเพิ่มขึ้น ปรากฏ ด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตามปกติ แล้วก็มีความรู้ชัดพร้อมกับความสงบยิ่งขึน ในอารมณ์นั้น จึงจะเป็นการเจริญสมถภาวนา