ปัญญาในสมถภาวนา
การอบรมเจริญภาวานา ต้องเป็นไปด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น สมถภาวนา โดยระลึกรู้ ลักษณะของอารมณ์ที่เป็น สมถกรรมฐาน อารมณ์ใดๆ ก็ตาม ลักษณะของจิตที่สงบ ที่เป็นกุศล พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ สมบูรณ์อย่างในขณะนี้ตามธรรมดา ขณะนี้จิตของผู้ที่ไม่ได้ฟังธรรม แล้วก็ไม่รู้ความต่างกันของ กุศลจิต และ อกุศลจิต ย่อมมีปัจจัยที่จะเป็นอกุศล เรื่อยๆ ตามปกติ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ สมบูรณ์อย่างนี้ แทนที่จะเป็นอกุศลจิต เพราะปัญญาที่รู้ลักษณะที่ต่างกัน ของกุศลจิต และอกุศลจิต และมีปัญญารู้เหตุ ที่จิตจะสงบ เป็นปัจจัย ทำให้จิตในขณะนี้ สงบเป็นกุศล เป็น สมถะ แทนที่จะเป็นอกุศล ตามปกติอย่างนี้ทีเดียว ถึงแม้ว่าท่านผู้นั้นจะมีเวลาว่าง แล้วก็มีสถานที่ที่เหมาะแก่ การที่จะเจริญความสงบยิ่งขึ้น เช่นในสถานที่ที่สงบเงียบ เช่นเรือนว่างหรือว่าในป่าเขาลำเนาไพรใดๆ ก็ตาม ผู้ที่อบรมเจริญสมถภาวนา ในขณะนั้น ก็พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ สมบูรณ์อย่างในขณะนี้ ไม่มีอาการผิดปกติ ไม่มีอาการที่จะไปมีปรากฏการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น แล้วก็มีความสงสัยมีความไม่เข้าใจ มีความไม่รู้ว่าขณะนั้น สภาพนั้นเกิดปรากฏขึ้นได้อย่างไร ถ้าเป็นในลักษณะนั้นแล้ว ไม่สงบแน่นอน คะ ไมใช่การเจริญสมถภาวนา เพราะฉะนั้น การเจริญสมถภาวนา คือการอบรมเจริญกุศลซึ่งเป็นความสงบ ในขณะที่สติสัมปชัญญะ สมบูรณ์ ตามปกติ แต่ต้องมีปัญญาที่รู้ว่าทำอย่างไร จิตจึงจะสงบเป็นกุศล