เข้าใจธรรมตามลำดับ
อ.ธิดารัตน์ ช่วงเวลานี้ ก็เป็นการสนทนาเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งก็ได้แก่ การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ถ้าหากว่าท่านผู้ร่วมสนทนาท่านใด มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของธรรม หรือว่าการเจริญสติปัฏฐาน สภาพธรรมต่างๆ เชิญถามได้เลย
ผู้ฟัง กราบท่านอาจารย์ ฯ ที่เคารพ จากที่ฟังสนทนากันเรื่องปัจจัย ปัจจัยจริงๆ แล้วก็จะต้องรู้ แล้วก็รู้ได้ด้วย เพราะถ้าไม่รู้เรื่องปัจจัยแล้ว การบรรลุเป็นพระโสดาบันก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็คือเรื่องปัจจัยนี้มีประโยชน์ที่จะต้องเรียนรู้ แต่ก่อนที่จะไปรู้การเป็นปัจจัย ก็ต้องรู้ลักษณะของการเกิดของรูปของนามก่อน ก่อนที่จะรู้ลักษณะของรูปของนาม ซึ่งเป็นวิปัสสนาแรก ก็จะต้องเรียนรู้เรื่องสติปัฏฐานก่อน ตรงนี้เป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่
ท่านอาจารย์ ก็เป็นการเข้าใจธรรมตามลำดับ ขณะนี้รู้เรื่อง แล้วก็มีธรรมด้วย แต่ไม่รู้ลักษณะของธรรม ใช่ไหม เข้าใจว่าสิ่งที่กำลังมีเป็นธรรม นี่ขั้นต้นที่เดียวที่ฟัง คือถ้าจะหาธรรมว่า ธรรมคืออะไร ธรรมอยู่ที่ไหน ก็คือสิ่งที่มี ที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเองเป็นธรรม นี่จากขั้นฟัง ฉันใด? เรายังไม่ได้ รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ปรากฏ เป็นธรรมตามที่เราได้ฟัง เราเพียงแต่จำได้ ว่าขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม แต่ว่าลักษณะที่เป็นธรรม ไม่ใช่ลักษณะที่เราเคยจำไว้ว่า เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นวัตถุ สิ่งต่างๆ เช่น สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในขณะนี้กำลังมี และจากการฟังก็ทราบว่าเป็นธรรม แต่ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏโดยฐานะจริงๆ ที่เป็นเพียงธรรมอย่างหนึ่ง ยังไม่ได้เป็นความรู้ที่สมบูรณ์ เพราะเหตุว่า แม้ขณะนี้ก็เห็น ยังไงก็ต้องเห็น ลืมตาที่ไหนก็ต้องเห็น เห็นแล้วก็ต้องรู้ต่อไปว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร แล้วก็เร็วมาก จนไม่มีขณะที่พอจะรู้ว่าขณะนั้นเป็นแต่เพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่ง อย่างที่เคยได้ยินได้ฟัง
เพราะฉะนั้นสติปัฏฐาน ก็คือปกติอย่างนี้เอง และขณะนี้ที่กำลังมีสิ่งที่ปรากฏทางตา ก็กำลังเห็นสิ่งนั้น และค่อยๆ รู้ว่าเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ จนกว่าจะมั่นคงว่าเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ ลองคิดดูว่าจะเร็วหรือจะช้า สิ่งที่เคยเป็นเพื่อนฝูง มิตรสหาย ดอกไม้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ความจริงก็คือเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา เมื่อความจริงเป็นอย่างนี้ จะให้รู้เป็นอย่างอื่นได้ไหม ถ้ารู้จริงๆ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า สติไม่ได้ไปรู้อื่น แต่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
เพราะฉะนั้นเวลาที่สติสัมปชัญญะกำลังรู้ลักษณะของสภาพธรรมอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ได้ไปนึกถึงทวาร ไม่ต้องไปคิดว่านี่เป็นทวารไหน อย่างสิ่ง ที่กำลังปรากฏ กำลังเริ่มที่จะรู้ว่าเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ น้อยมาก สั้นมาก เพราะเหตุว่าพอได้ยิน ก็ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏทางตาแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นปกติที่แล้วแต่ว่าสติจะระลึกลักษณะของสภาพอะไร ทีละเล็ก ทีละน้อยตามปกติ โดยที่ว่าไม่ต้องเอ่ย ไม่ต้องคิดว่าทวารไหน นี่คือการที่จะรู้ลักษณะจริงๆ ของสภาพธรรม