สติปัฏฐานไม่ได้รู้อื่นแต่รู้สิ่งที่กำลังมี


    ผู้ฟัง อายตนะ ก็ต้องมีสภาพธรรมหลายอย่างประชุมกันในขณะนั้น คำว่าประชุมก็ต้องมีมากกว่าหนึ่ง แล้วถ้าสิ่งที่ปรากฏทางตาปรากฏ ตามศึกษาก็จะต้องมีจิต แล้วก็มีสิ่งที่ปรากฏ และยังมีเจตสิกอีก ๗ ประเภท เรียนถามว่า เมื่อสติปัฏฐานเกิด สามารถที่จะระลึกรู้อะไรก็ได้เลยในขณะที่ลักษณะเห็นปรากฏ

    ท่านอาจารย์ สิ่งที่กำลังมี สติปัฏฐานรู้ ไม่ใช่รู้อื่น แต่รู้สิ่งที่กำลังมีในขณะนี้คือค่อยๆ เข้าใจถูกในลักษณะของสิ่งที่มีจริงๆ ที่ปรากฏ ส่วนเรื่องราวต่างๆ เช่น ธาตุ ก็คือลักษณะของสภาพธรรม ซึ่งเมื่อมีลักษณะเฉพาะอย่างนั้น ก็จะไม่ใช่ใครเลยทั้งสิ้น นามธาตุก็คือสภาพรู้ รูปธาตุแต่ละรูป ก็ไม่ใช่สภาพรู้แม้แต่คำว่าขันธ์ที่จำจากการศึกษาหรือการฟัง ตัวจริงของขันธ์ที่จะรู้ได้ ก็ต่อเมื่อสติสัมปชัญญะเกิด อย่างที่เคยกล่าวแล้ว แข็งที่ฝ่ามือกับแข็ง ที่กายส่วนอื่น ลักษณะเหมือนกันหรือเปล่า หยาบกว่า ละเอียดกว่าหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ก็คือแข็ง

    เพราะฉะนั้นเวลาที่กล่าวว่า รูป มีทั้งหยาบ ทั้งละเอียด แต่ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด ก็ไปจำไว้ว่ารูปทุกรูปเป็นขันธ์ รูปที่ดับไปก็เป็นอดีต รูปที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอนาคต รูปที่กำลังปรากฏก็เป็นปัจจุบัน ใกล้ ไกล หยาบ ละเอียด ภายใน ภายนอก นี่คือสิ่งที่เราได้ยินได้ฟัง แต่สติสัมปชัญญะยังไม่ระลึกเลย เพราะฉะนั้นจะหยาบละเอียดได้อย่างไรนอกจากอยู่ในตัวหนังสือจากความคิด แต่เวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด รูปแม้แข็ง หยาบ ก็ต้องต่างกับอย่างอื่น นั่นคือได้รู้ลักษณะจริงๆ ของความหมายของคำว่า ขันธ์


    หมายเลข 4088
    7 ส.ค. 2567