สติระลึกขณะไหน เมื่อไรก็ได้
การที่สติจะระลึกลักษณะของสภาพธรรม สามารถที่จะระลึกขณะไหน เมื่อไรก็ได้ เพื่อความรู้จะได้เพิ่มขึ้นในลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ จนกว่าปัญญาจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นๆ ให้ทราบว่า เป็นปรมัตถ์ แต่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นทางจะรู้ก็คือสติระลึก แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแต่ละทาง เป็นปกติ สั้นแสนสั้นก็ไม่เป็นไร ก็ต้องเป็นสั้นแสนสั้น แต่รู้ว่าขณะนั้นเป็นสัมมาติที่ระลึก ไม่ใช่เพียงนึก หรือไม่ใช่เพียงฟังเรื่องปรมัตถธรรม แต่ว่ารู้ว่าเรื่องขณะนี้กำลังเห็น ก็กลับมาที่สภาพที่กำลังเห็นในขณะนี้ ซึ่งเป็นลักษณะรู้ หรือการเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏ เสียง มีจริง ปรากฏให้รู้ เพราะฉะนั้นจิตเป็นสภาพที่กำลังรู้เสียงคือได้ยินเสียง
นี่คือขณะที่กำลังได้ยินนี้เองสติสามารถที่จะระลึกในอาการที่รู้เสียง ขณะนี้ที่เสียงปรากฏ เพราะมีสภาพที่ได้ยิน คือรู้เสียงที่ปรากฏ มิฉะนั้นเสียงก็ปรากฏไม่ได้ ก็เป็นชีวิตประจำวัน แต่ว่าเกิดดับเร็วมาก จนกระทั่งถ้าสติไม่ระลึก ก็ไม่มีทาง ก็อยู่ในตำราหมด แต่ทีนี้การศึกษามี ๓ ระดับ ขั้นปริยัติฟั งเรื่องราวของปรมัตถธรรม ของนามธรรม และรูปธรรม ขั้นปฏิบัติคือสติปัฏฐานเกิดขึ้นกระทำกิจระลึกลักษณะของปรมัตถธรรม พร้อมทั้งค่อยๆ เข้าใจขึ้น เป็นการศึกษาที่เป็นอธิศีลศึกษา อธิจิตศึกษา อธิปัญญาศึกษา แล้วในที่สุดความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏก็เพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะประจักษ์ในลักษณะซึ่งไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ได้ แต่ว่าไม่ใช่ชีวิตที่ผิดปกติ ต้องเป็นในขณะเดี๋ยวนี้ เป็นของจริงธรรมดาๆ