อัญญมัญญปัจจัย ต่างอาศัยซึ่งกันและกันจึงเกิด


    ปัจจัยต่อไป คือ ปัจจัยที่ ๗อัญญมัญญปัจจัย ภาษาไทยเคยใช้ไหมคะ คำนี้ อัญญมัญญ มีใช้ไหมในภาษาไทยไม่มีอาจจะมีคำคล้ายคลึง แต่ไม่ใช่ และความหมายคนละอย่าง

    สำหรับ “อัญญมัญญปัจจัย” หมายถึงสภาพธรรมที่ต่างอาศัยพึงพิงซึ่งกันและกัน จึงจะเกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้ ซึ่งมีคำอุปมาว่า เหมือนไม้ ๓ อันซึ่งจะตั้งอยู่ได้ต้องอาศัยซึ่งกันและกันค้ำกันอยู่ไว้จึงจะตั้งอยู่ได้ ฉันใดสำหรับสภาพธรรมที่เป็นอัญญมัญญปัจจัย ก็คือสภาพธรรมนั้นต่างอาศัยซึ่งกันและกัน ซึ่งมี ๓ หมวด คือ

    หมวดที่ ๑ จิตทุกดวงและเจตสิกทุกดวงเป็นอัญญมัญญปัจจัยซึ่งกันและกัน

    นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า จิตจะเกิดโดยไม่มีเจตสิกไม่ได้และเจตสิกจะเกิดโดยไม่มีจิตไม่ได้ นอกจากนั้นนอกจากจะเป็นอัญญมัญญปัจจัยแล้ว ยังต้องเป็นสหชาตปัจจัย คือ ต้องเกิดพร้อมกันด้วย

    หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ จิตและเจตสิก นอกจากจะเกิดพร้อมกัน คือ เป็นสหชาตปัจจัยแล้ว ยังต้องเป็นอัญญมัญญปัจจัยด้วยคือ ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน

    จิตต้องอาศัยเจตสิกหรือเปล่า อาศัยเพราะเจตสิกเป็นอัญญมัญญปัจจัยของจิต

    เจตสิกต้องอาศัยจิตหรือเปล่า อาศัย เพราะจิตเป็นอัญญมัญญปัจจัยของเจตสิก นี่หมวดที่ ๑

    หมวดที่ ๒ มหาภูตรูป ๔ เป็นอัญญมัญญปัจจัยของมหาภูตรูป ๔ ถ้าเข้าใจเรื่องสหชาตปัจจัยแล้ว อัญญมัญญปัจจัยไม่ยาก

    หมวดที่ ๓ปฏิสนธิจิตและเจตสิกในภูมิที่มีขันธ์ ๕เป็นอัญญมัญญปัจจัยของปฏิสนธิหทยวัตถุ ดังที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว

    ถ้าแสดงโดยปัจจัยก็คือว่า นอกจากจะเป็นสหชาตปัจจัยแล้ว ยังเป็นอัญญมัญญปัจจัยด้วย มีเพียง ๓ หมวดที่เป็นสภาพธรรมที่ต่างต้องอาศัยพึ่งพิงซึ่งกันและกัน

    อัญญมัญญปัจจัยต่างกับสหชาตปัจจัยไหม ต่าง

    เพราะเหตุว่าสภาพธรรมบางอย่างเกิดพร้อมกันจริง แต่ไม่ได้เป็นอัญญมัญปัจจัย เช่น จิตและเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยให้จิตตชรูปเกิดขึ้นโดยสหชาตปัจจัย แต่ว่าจิตและเจตสิกไม่ได้เป็นอัญญมัญญปัจจัยของจิตตชรูป เพราะเหตุว่าจิตตชรูปอาศัยจิตเกิด เพราะมีจิตเป็นสมุฏฐาน แต่จิตตชรูปไม่สามารถทำให้จิตเกิดได้ แต่เมื่อจิตเกิดขึ้น จิตนั้นเป็นสหชาตปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด แต่ว่าจิตตชรูปไม่ได้เป็นปัจจัยให้จิตเกิด เพราะฉะนั้นจิตตชรูปไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัยให้กับจิตและเจตสิก หรือจิตตชรูปไม่เป็นสหชาตปัจจัยให้กับจิตและเจตสิก ถูกไหมคะ แม้สหชาตปัจจัย จิตตชรูปก็ไม่ได้เป็นปัจจัย แต่จิตตชรูปเป็นปัจจยุปบันน เพราะเหตุว่าจิตและเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด รูปนั้นเกิดเพราะจิต แต่จิตนั้นไม่ได้เกิดเพราะจิตตชรูป แต่จิตตชรูปเกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน

    เพราะฉะนั้นสำหรับจิตตชรูปไม่เป็นสหชาตปัจจัยเป็นสหชาตปัจจยุปบันนและไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัยเพราะเหตุว่าจิตตชรูปไม่ได้เป็นปัจจัยให้จิตเกิด

    จิตเป็นอัญญมัญญปัจจัยของจิตตชรูปหรือเปล่า ?

    ไม่เป็น เพราะถ้าอัญญมัญญะ หมายความว่า ทั้งปัจจัยและปัจจยุปบันนต่างต้องอาศัยกันและกัน

    จิตตชรูปอาศัยจิต แต่จิตไม่ได้อาศัยจิตตชรูปเกิด

    จิตเป็นปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด แต่จิตตชรูปไม่ได้เป็นปัจจัยให้จิตเกิด

    เพราะฉะนั้นจิตและเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยของจิตตชรูป แต่จิตและเจตสิกไม่ได้เป็นอัญญมัญญปัจจัยของจิตตชรูป

    จิตตชรูปเป็นสหชาตปัจจัยของจิตหรือเปล่า ? ไม่เป็น

    จิตตชรูปเป็นรูปซึ่งเกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน เพราะฉะนั้นจิตตชรูปไม่ใช่สหชาตปัจจัยของจิต แต่เป็นสหชาตปัจจยุปบัน เพราะเหตุว่าจิตเป็นสหชาตปัจจัยให้จิตตชรูปเกิด

    เป็นเรื่องละเอียดจริง ๆ ถ้าท่านผู้ฟังจะรู้สึกว่าละเอียดเกินไปยังไม่อยากจะสนใจ ก็ไม่เป็นไรเพียงแต่ให้ทราบว่านี่คือสภาพธรรมที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา เป็นตัวตน แต่ว่าแต่ละขณะนี้ จิตเจตสิกเกิดดับ รูปเกิดดับ และเพราะเป็นปัจจัยต่างๆรูปในขณะนี้จึงเป็นอย่างนี้ หรือว่านามธรรม คือ จิตและเจตสิกในขณะนี้จึงเป็นอย่างนี้

    สำหรับอัญญมัญญปัจจัยนี้ก็ง่าย คือว่าปัจจยุปบันนจะต้องเป็นที่อิงอาศัยให้เกิดปัจจัยด้วย ปัจจัยก็ต้องเป็นที่อิงอาศัยให้เกิดปัจจยุปบันนด้วยถ้ามิฉะนั้นแล้วเป็นได้เพียงสหชาตปัจจัย แต่เป็นอัญญมัญญปัจจัยไม่ได้


    หมายเลข 4125
    28 ส.ค. 2558