ฟังแล้วเข้าใจระดับไหน
ผู้ฟัง น่าสังเกตว่า ความรู้ปริยัติอย่างเดียวก็คงจะนำมาปฏิบัติไม่สะดวกนัก นอกจากว่าจะต้องรู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องด้วย ถ้าหากว่าจะรู้แค่ปริยัติอย่างเดียวก็คงยังไปไม่ถึงไหน
ท่านอาจารย์ แล้วนำมาปฏิบัตินำมาอย่างไร
ผู้ฟัง ก็พิจารณาดู ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง เกสา โลมา นขา ฯลฯ
ท่านอาจารย์ นำมาจากไหน
ผู้ฟัง ข้อนี้เป็นปริยัติ ด้วยหรือเปล่า นับเป็นวิธีปฏิบัติมิใช่หรือ
ท่านอาจารย์ คือเราไปเข้าใจขั้นตอนของเรา และเราก็คิดว่าปริยัติ แล้วก็นำมาปฏิบัติ แต่จริงๆ แล้ว ฟังแล้วก็เข้าใจ แล้วก็มีสภาพธรรมกำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับว่าขณะที่เราฟัง ความเข้าใจของเราระดับไหน ระดับเรื่องราวเท่านั้นเอง ว่าเป็นธรรมแต่ละอย่างปรากฏเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ใช่ตัวตน นี่คือระดับที่ฟังแล้วก็คิด แค่นี้ แต่ว่าสภาพธรรมขณะนี้เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นสติสัมปชัญญะ สติปัฏฐาน ถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ มีลักษณะจริงๆ ขณะนี้ ถ้าใครสามารถที่จะเข้าถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น ประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไป ก็คือขณะที่ฟังแล้วก็เข้าใจ แล้วก็เวลาที่สติสัมปชัญญะเกิดก็รู้ว่าขณะนั้นต่างกับขณะที่เพียงฟัง
เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ความต่างกัน ก็รู้ว่าขณะไหนที่ปัญญาจะสามารถเจริญสมบูรณ์จนกระทั่งประจักษ์แจ้งแทงตลอดความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ไม่ต้องไปไหน ทำอะไร เข้าใจขึ้น เข้าใจขึ้น