ทำไมบางคนสติสัมปชัญญะเกิด
ผู้ฟัง ปรมัตถธรรมสังเขป ให้ระลึกรู้รูปที่ปรากฏที่กาย อันนี้เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ท่านอาจารย์ฯ ไม่ใช่ให้ระลึก ขณะไหนที่สติสัมปชัญญะเกิดรู้รูปที่กาย
ผู้ฟัง รู้รูปที่กาย ท่านก็แสดงสัมปชัญญะ ๔ ถ้าเราไม่มีพื้น ไม่ทราบว่าทำไมท่านจึงแสดงเช่นนี้
ท่านอาจารย์ ทำไมบางคนมี ทำไมบางคนไม่มี ทั้งๆ ที่สภาพธรรมก็มีกับทุกคนในขณะนี้ แล้วก็กำลังปรากฏด้วย แต่ทำไมบางคนมีสติสัมปชัญญะเกิด แล้วก็กำลังรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏที่กาย บางคนก็ไม่มีสติสัมปชัญญะเกิด และสำหรับคนที่สติสัมปชัญญะเกิด ก็ไม่ใช่ว่ามีตลอดเวลา ประเดี๋ยวก็ไม่มีแล้ว เพราะเหตุว่าสภาพธรรมก็เกิดดับ เพื่อที่จะให้ละความติดข้อง ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะให้มีอะไรแล้วก็ทำอะไรให้เกิดขึ้นด้วยความเป็นเรา
เพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าใจเหตุว่า ทำไมบางคนสติสัมปชัญญะก็เกิด บางคนสติสัมปชัญญะก็ไม่เกิด และเวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด ผู้ที่ฟังพระธรรมในครั้งนั้น บางท่านก็สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมเป็นพระอริยบุคคล ซึ่งคนอื่นก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายความว่า ไม่มีความรู้อะไรเลยแล้วพอได้ยินคำว่าเห็นกายในกาย ก็จะมีการเห็นกายในกายตรงนั้นขณะนั้นได้ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้นความรู้ต้องตามลำดับจริงๆ ต้องมั่นคงจริงๆ ต้องมีความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่สามารถจะรู้ว่าขณะนี้เป็นลักษณะแต่ละลักษณะของสภาพธรรมนั่นเอง ถ้ามีความเข้าใจที่มั่นคงอย่างนี้ ก็จะเป็นปัจจัยให้สติเกิด แล้วก็ระลึกลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้นได้ นี่เป็นสาตถกสัมปชัญญะหรือเปล่า คือปัญญาที่รู้ประโยชน์จริงๆ ว่าการที่ปัญญาที่สามารถรู้สภาพธรรมได้ ก็คือในขณะที่สภาพธรรมกำลังปรากฏ ไม่ใช่สภาพธรรมปรากฏขณะนี้แล้วไปทำอย่างอื่น ไปที่อื่น ไปคิดอย่างอื่น อย่างนั้นก็จะไม่ใช่สาตถกสัมปชัญญะ เพราะเหตุว่าไม่สามารถที่จะรู้จริงๆ ว่าประโยชน์แท้ๆ ของการฟังพระธรรม การเข้าใจพระธรรม ก็คือสามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรม และก็ขั้นต้นที่สุดก็รู้ความต่างของขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่สติเกิด ถ้าใครก็ตามสติสัมปชัญญะไม่เกิด ไม่สามารถจะรู้ขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่สติสัมปชัญญะเกิด ถูกต้องไหม เมื่อสติสัมปชัญญะเกิดจึงรู้ว่าขณะไหนหลงลืม และขณะไหนไม่หลงลืม นี่ก็คือความรู้ขั้นต้นซึ่งก็เป็นสาตถกสัมปชัญญะ