ความเข้าใจถูกเป็นปัญญา
ความเข้าใจถูกซึ่งเป็นปัญญา คือ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา เป็นตัวตน ให้ประจักษ์แจ้งจริงๆ ว่าแท้ที่จริงแล้วเหมือนกำมือที่ว่างเปล่า คือพิจารณาแล้วไม่มีอะไรที่เป็นเรา หรือเป็นของเราจริงๆ ตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า มีอากาศธาตุ ช่องว่าง แทรกคั่นอยู่โดยละเอียดยิบ พร้อมที่จะแตกทำลายกระจัดกระจายเป็นผงธุลีเมื่อไรก็ได้ ขณะไหนก็ได้ นี่คือส่วนซึ่งเราเคยยึดถือว่าเป็นคิ้ว เป็นตา เป็นแขน เป็นขาของเรา แต่ความจริงแล้วก็เหมือนกับกองดิน ซึ่งมีอากาศธาตุแทรกคั่นอยู่ รูปไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก ไม่ต่างกันเลย แข็งที่นี่กับแข็งที่ตัว หรือแข็งที่ไหนๆ ก็คือลักษณะที่แข็ง เป็นธาตุแข็ง เย็นหรือร้อนที่ไหนก็ตาม ก็คือลักษณะที่เย็นหรือร้อน แต่พอมาอยู่ตรงส่วนซึ่งมีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น เราก็เลยยึดถือว่านี่เป็นกาย หรือว่าเป็นของเรา แต่ความจริงตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้าก็มีสมุฏฐานให้เกิด ว่ารูปกลุ่มใดประเภทใดเกิดเพราะกรรม รูปกลุ่มใดประเภทใดเกิดเพราะจิต รูปกลุ่มใดประเภทใดเกิดเพราะอาหาร รูปกลุ่มใดประเภทใดเกิดเพราะอุตุ คือ ความเย็นความร้อน
เพราะฉะนั้นก็มีสมุฏฐานทุกอย่างสำหรับทุกสิ่งที่เกิด ไม่มีใครไปบันดาลและก็ไม่เป็นของใครด้วย เสียงที่ดับไปแล้วเป็นของใคร ได้ยินที่ดับไปแล้วเป็นของใคร ก็เป็นเพียงชั่วขณะจิตที่เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ตามเหตุปัจจัยที่สะสมมา ทำให้มีบุคลิก หรือว่าเป็นแต่ละบุคคลตามการสะสม แต่ก็คือจิตแต่ละขณะซึ่งเกิดดับสืบต่อกันนั่นเอง