ไม่สามารถรู้ได้เพียงในชาติเดียว


    ขอให้พิจารณาดูชีวิตของทุกท่านในอดีตแสนโกฏิกัปป์ ไม่ใช่ท่านจะไม่เคยเกิดมาเลย เคยเกิดแล้วก็ตาย แล้วก็เกิด แล้วก็ตาย นับชาติไม่ถ้วนในแสนโกฏิกัปป์ และผลคือปัญญาในชาตินี้มีแค่ไหน

    นี่เป็นการพิสูจน์การค่อยๆ เจริญเติบโตของปัญญา เพราะเหตุว่าถ้าไม่เคยฟังพระธรรมในอดีตมาเลย ไม่มีการสนใจฟังอีก เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ยากเกินไป และไม่สามารถรู้ได้เพียงในชาติเดียว เพราะฉะนั้นบางคนก็อาจจะท้อถอยด้วยความหวังในผล และถ้าเป็นผู้ที่ท้อถอยมาก ก็จะหันไปสู่การปฏิบัติอย่างอื่น เพราะเหตุว่าไม่ได้เป็นผู้ตรงต่อเหตุผลจริงๆ ว่า ถ้าจะต้องประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรมในขณะนี้ ก็จะต้องเริ่มระลึกศึกษารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเอง เมื่อเป็นอย่างนี้ ชาตินี้สติระลึกเท่าไร และปัญญาพิจารณาเริ่มรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมบ้างเท่าไร นี่เป็นผลของการสะสมอบรมในแสนโกฏิกัปป์ ซึ่งปัจจุบันชาตินี้เป็นการพิสูจน์การสะสมซึ่งได้ผ่านมาแล้ว แสดงให้เห็นว่า น้อยแค่ไหน กี่กัป คือถ้าไม่เทียบกับชาตินี้ ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่า ก่อนๆ นั้น ไม่ใช่ไม่เคยอบรม ไม่ใช่ไม่เคยฟัง ไม่ใช่สติปัฏฐานไม่เคยเกิด เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วแสนกัป ย่อลงมาอีกก็ได้ แต่ว่าปัจจุบันที่ได้อบรมมาแล้วทั้งๆ ที่อบรมมาแล้วแสนกัป หรืออาจจะไม่ถึงก็ตามแต่ แต่ว่าหลายชาติ ขณะนี้มีความเข้าใจแค่ไหน

    นี่คือผู้ที่ตรงจริงๆ


    หมายเลข 4339
    2 ส.ค. 2567