ปัญญาในสมถภาวนากับวิปัสสนาภาวนา
ผู้ฟัง ปราศจากกิเลสแต่ว่า มียังยึดถือความเป็นตัวตนอยู่ใช่ไหมคะ
ท่านอาจารย์ ก็เหมือนขณะที่ให้ทาน เป็นกุศลจิต ขณะที่จิตเป็นกุศลไม่มีอกุศลเกิดร่วมด้วยแต่ ก็ยังยึดถือว่าเป็นเราที่ให้ทาน
ผู้ฟัง แล้วขณะที่เกิดจิตสงบ ก็มีการยึดถือความสงบนั้น
ท่านอาจารย์ ไม่มีปัญญาที่รู้ขณะนั้นไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เป็นสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เพราะว่าขณะนั้นเป็นแต่เพียงลักษณะของจิตที่สงบ ที่เกิดขึ้นเพราะปัญญาที่รู้ว่าจิตที่สงบเป็นกุศล
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น สติปัฏฐาน วิปัสสนาภาวนากับสมถภาวนา ก็ต่างกันโดยที่ว่า เจริญสติปัฏฐาน วิปัสสนาภาวนา นี้ก็ละคลายความยึดถือ ความเป็นตัวตน ความเป็นสัตว์ ความเป็นบุคคล
ท่านอาจารย์ คะ การเจริญวิปัสสนาภาวนา เป็นการเจริญปัญญา ที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงโดยไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพื่อที่จะดับกิเลส เป็น สมุจเฉท แต่แม้ในขณะที่สติกำลังระลึก ศึกษา รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นก็สงบ เป็นความสงบที่ประกอบด้วยปัญญา ที่รู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่การเจริญสมถภาวนานั้น เป็นปัญญาขั้นที่รู้ความต่างกันของ กุศลจิต และอกุศลจิต และสามารถที่จะเจริญกุศลซึ่งเป็นความสงบ ของจิตได้ แต่ไม่สามารถที่จะละ การยึดถือว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน ได้