พระโพธิสัตว์คิดต่างจากบุคคลอื่นอย่างไร
ก่อนจะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชีวิตของพระโพธิสัตว์คือชีวิตของผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลส ถ้าพูดถึงคนที่ยังไม่ได้ดับกิเลสเลย ก็ลองคิดดูว่า กิเลสต้องมีมาก ทั้งโลภะ ทั้งโทสะ ทั้งโมหะ ทั้งริษยา ความสำคัญตน ความถือตน ความลบหลู่ ทุกอย่างต้องมีมากทีเดียว แต่ทำไมพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ในเมื่อคนอื่นไม่เป็น เพราะว่าพระองค์พิจารณาสิ่งที่มีในขณะนั้นด้วยความแยบคายว่า มาจากไหน คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร
เราเกิดมามีตัวตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้าเหมือนกับเป็นสมบัติของเรา ได้มา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เมื่อเกิดมาก็มีแล้ว และยึดถือด้วยว่าเป็นของเรา แต่พระโพธิสัตว์คิดพิจารณาสภาพธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไม่เที่ยง คือทุกคนเกิดมา จะไม่แก่ ไม่ให้เปลี่ยนแปลง ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตาย ไม่ให้สุขบ้าง ไม่ให้ทุกข์บ้าง เป็นไปไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น ต้องมีเหตุที่ทำให้สภาพธรรมเหล่านี้เกิดขึ้น นี่คือผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะพิจารณาค้นคว้าสัจธรรม ซึ่งกว่าจะได้ตรัสรู้ ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วที่สุด ก็ต้องอาศัยการบำเพ็ญบารมีครบถ้วนถึง ๔ อสงไขยแสนกัป ด้วยผู้ที่มีปัญญายิ่ง แต่ถ้าเป็นผู้ยิ่งด้วยศรัทธา ปัญญาน้อยกว่าศรัทธา จะต้องถึง ๘ อสงไขยแสนกัป แต่ถ้าศรัทธาไม่มาก ปัญญาก็ไม่มาก ต้องอาศัยวิริยะ ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยแสนกัป แต่สำหรับเราชาวพุทธ โชคดีที่ว่าเกิดในสมัยที่พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสื่อม ยังไม่ลบเลือน ยังไม่สูญไป เพราะเหตุว่าพระไตรปิฎก และอรรถกถายังครบสมบูรณ์