เหตุใดจึงกล่าวว่าไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน
จริงๆ แล้ว ไม่มีคนเลย มีแต่เพียงสภาพธรรม เพราะฉะนั้น เวลานี้ทุกคนรู้สึกเหมือนมีโลก แล้วกำลังอยู่ในโลก แต่ถ้ารู้ความจริงแล้วจะรู้ว่า ที่โลกปรากฏเพราะจิตเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเดียว อย่างโลกทางตาปรากฏแล้วดับไป ขณะที่เสียงปรากฏ เป็นโลกทางหู โลกทางตาดับไปแล้ว ไม่เหลือเหลือ แล้วมีเฉพาะเสียงที่ปรากฏทางหูแล้วก็ดับไป
เพราะฉะนั้น ที่เคยยึดมั่นว่า เป็นเรา ตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า เป็นแต่เพียงเหมือนฝุ่นละเอียดๆ ที่มีอากาศธาตุแทรกคั่นอยู่ พร้อมที่จะจะกระจัดกระจายหมดสิ้นไปทุกขณะ และในขณะที่กำลังเป็นกองฝุ่นซึ่งมีอากาศธาตุแทรกคั่นอยู่ ก็เป็นปัจจัยให้มีจิตเห็นเกิดขึ้นบ้าง จิตได้ยินเกิดขึ้นบ้าง แต่จิตเห็นก็ไม่เที่ยง จิตได้ยินก็ไม่เที่ยง
เพราะฉะนั้น จิตเห็นเมื่อกี้นี้ก็ดับไปแล้ว จิตได้ยินก็ดับไปด้วย เพราะฉะนั้น แท้ที่จริงแล้วไม่มีใครเลย ในขณะที่รู้ความจริงอย่างนี้ ผู้นั้นก็จะรู้ได้ว่า คนอื่นก็ไม่มี
เพราะฉะนั้น ในขณะที่คิดถึงจิตคนอื่น ขณะนั้นแท้จริงแล้วก็เป็นจิตของบุคคลนั้นเองที่กำลังคิดเรื่องคนอื่นเท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นความจริงก็คือรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติ ตามความเป็นจริง แล้วก็รู้ว่า ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน