กุศลทุกประการควรเจริญ


    พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง กุศลทุกประการว่าเป็นสิ่งทีควรเจริญ พระผู้มีพระภาค ไม่สามารถที่จะให้สติปัฏฐาน ของใคร เกิดเป็นสติปัฏฐาน อยู่ได้ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าขณะใดเป็นปัจจัยของทานกุศล หรือศีล หรือสมถะ ทรงแสดงคุณของกุศลทุกประการไว้ ว่าเป็นสิ่งที่ควรเจริญ ควรอบรม ให้เป็นบารมี ที่จะได้ขัดเกลากิเลสให้เบาบาง จนกระทั่งสามารถที่จะมีปัจจัยให้ปัญญา เกิดขึ้น รู้ชัดในสภาพธรรม ที่ปรากฏ ดับความยึดถือสภาพธรรม นั้น เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ ด้วยเหตุนี้ สำหรับท่านที่เจริญสมถภาวนา มีความสงบของจิตมั่นคงด้วยสมาธิ ขณะนั้นก็เป็น สัมมาสมาธิของสมถะ แล้วถ้าเป็นผู้ที่มีปกติ อบรมเจริญสติปัฏฐาน ในขณะนั้น สัมมาสมาธินั้นก็เป็น มรรคมีองค์ ๘ เพราะสติเกิดขึ้น ระลึกรู้ลักษณะสภาพของความสงบ และความมั่นคงของสมาธิ ในขณะนั้นว่า ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง เป็นเรื่องของกุศลแต่ละขั้น ซึ่งเกิดสลับกันตามเหตุ ตามปัจจัย ตามความเป็นจริงของแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้น สมถภาวนาก็เป็นกุศลที่ควรเจริญ แต่ว่าไม่ใช่ว่าต้องไปเจริญที่อื่น แต่ว่าขณะนี้ จิตสงบไหม ไม่คอยถึงข้างหน้า เพราะเหตุว่า การอบรมเจริญกุศล ควรที่จะเจริญทันที เพราะฉะนั้น ถ้าในขณะนี้ จิตไม่สงบ แล้วก็มีปัญญาที่รู้เหตุที่ให้จะให้สงบเกิดขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่จะให้กุศลจิตเกิดในขณะนี้ โดยไม่ต้องรอคอย อย่าเข้าใจว่าต้องเป็นที่อื่น แล้วจิตถึงจะสงบได้ ขณะนี้คะ ถ้ามีปัจจัยที่จะให้สงบ จิตก็สงบได้ และควรที่จะอบรม ความสงบของจิต เพราะเหตุว่ายากเหลือเกิน ที่จะดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉทโดยไม่เจริญกุศลทุกประการ เพราะว่าจะให้สติเกิดขึ้น ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ให้รู้ชัดว่า ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน นี่คะ ต้องค่อยๆ อบรมขึ้น ปัญญานั้นจึงจะเกิด แต่ว่าใครมุ่งหวังที่จะไปต้องการให้สติเกิดขึ้น แล้วก็ศึกษา ให้รู้ชัดทันที เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องอาศัยการอบรมเจริญกุศลทุกประการ ประกอบด้วย


    หมายเลข 4454
    3 ส.ค. 2567