จิตเป็นนามธรรมที่รู้ยากหากขาดปัญญา
ท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่า แม้จิตจะอยู่กับท่านทุกขณะ แต่ก็แสนยากที่จะรู้ สภาพความจริงของจิตในขณะนั้น เมื่อมีความยากอย่างนี้ ผู้ที่จะอบรมเจริญความสงบ จะสามารถจะทำได้อย่างไร ถ้าไม่รู้ลักษณะความสงบของจิต ของตนเสียก่อน ว่าขณะใดสงบ ขณะใดไม่สงบ เพราะว่าจิตรู้ยากจริงๆ กำลังเห็นก็เป็นจิตชนิด ๑ เป็นสภาพรู้ กำลังได้ยินก็เป็นจิตชนิด ๑ กำลังพอใจสิ่ง ๑ สิ่งใดก็เป็นจิตชนิด ๑ กำลังไม่พอใจก็เป็นจิตชนิด ๑ หรือว่ากำลังไม่มีโลภะ โทสะ แต่เมื่อมีความไม่รู้ ในสิ่งที่กำลังปรากฏ ในขณะนั้นก็ไม่ใช่ปัญญาคะ ไม่ใช่กุศลจิตแล้ว เพราะฉะนั้น ที่จะว่างๆ และ เฉยๆ โดยไม่ประกอบด้วยปัญญา จะมีประโยชน์ อะไร เพราะเหตุว่าขณะนั้นเป็นโมหมูลจิต ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โลภมูลจิต ไม่ใช่โทสมูลจิต ก็เป็นโมหมูลจิต ลักษณะของสภาพจิตที่ประกอบด้วย ปัญญาความรู้ ต่างกันมากกับขณะที่เฉยๆ แล้วไม่รู้อะไร ขณะที่กำลังรู้สึกเฉยๆ แล้วไม่รู้อะไร จะถือว่าดีไม่ได้ เพราะเหตุว่าไม่มีปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงในขณะนั้น เพราะฉะนั้น ปัญญาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำหรับผู้ที่จะอบรม เจริญสมถะ หรือวิปัสสนา