มรณานุสสติละคลายความติดข้อง
สำหรับมรณานุสติทั้งหมด ท่านผู้ฟังก็จะเห็นได้ว่าจุดประสงค์ในการที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมเรื่องมรณานุสตินั้น ไม่ใช่เพียงเพื่อให้จิตสงบ แต่ว่าเพื่อให้ระลึกรู้ลักษณะของ กาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งเป็นธรรมที่เป็นที่พึ่ง เป็นธรรมที่เป็นเกาะ เป็นธรรมที่จะทำให้ดับทุกข์ได้จริงๆ เพราะเหตุว่า บางคนก็อาจจะระลึกถึงความตาย แต่จะทราบหรือไม่ว่าขณะนั้น ขณะที่ระลึกนั้น เป็นกุศลหรือว่าเป็นอกุศล ถ้าระลึกแล้วไม่มีการละ ไม่มีการคลาย อะไรเลย ขณะนั้นจะเป็นกุศลได้หรือไม่ ไม่ได้ แต่ว่าถ้าผู้ใดที่ระลึกแล้วก็ยังพิจารณาจิตใจในขณะนั้นได้ว่ามีการละคลายการติด ในรูป ในเสียง ในกลิ่นในรส ในสมบัติ ในวงศาคณาญาติ หรือว่าในมานะ การถือตน ขณะนั้นก็ย่อมเป็นประโยชน์ของการที่จะระลึกถึงความตาย แต่ถ้าระลึกแล้วไม่มีการละ ไม่มีการคลายอะไรเลย ก็ไม่มีประโยชน์
การคิดถึงความตายจะทำให้ละมานะได้หรือไม่ ภพนี้ชาตินี้อาจจะเป็นผู้ที่เพียบพร้อมด้วยชาติสกุล โภคสมบัติ รูปสมบัติ วิชาความรู้ บริวารสมบัติ ทุกสิ่งทุกประการ แต่ว่าภพหน้าชาติหน้าจะเป็นใคร ยังจะมีรูปสวย รูปงาม มีทรัพย์สมบัติมาก เกิดในสกุลที่พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ ข้าทาสบริวารหรือเปล่า อาจจะตรงกันข้ามเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น การที่ระลึกถึงความตาย เห็นความไม่เที่ยง ก็ย่อมจะทำให้ท่านละคลายแม้ความติดในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสมบัติของท่าน ซึ่งเคยถือว่าเป็นของเรา และนอกจากนั้นก็ยังทำให้เกิดละคลาย มานะ การถือตน การสำคัญตน หรือความผูกพันในสัตว์ ในบุคคลซึ่งเป็นที่รัก ในสังขารซึ่งเป็นที่รักได้ จึงจะเป็นกุศล แต่ถ้าคิดถึงแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย อะไรก็ไม่ได้ละ อะไรก็ไม่ได้คลาย จะกล่าวว่าเป็นมรณานุสติ เป็นกุศลจิตได้หรือไม่ ระลึกเฉยๆ แต่ถ้าเป็นกุศลที่ตรงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงมุ่งหวังจริงๆ ในการแสดงธรรม ก็คือระลึกรู้ลักษณะของกาย ของเวทนา ของจิต ของธรรม ทันที