การเกิดดับของรูป
รูปที่มีใจครองจะมีกลุ่มของรูปมากกว่านั้น คือ ต้องมีกลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน มีกลุ่มของรูปที่เกิดจากจิตเป็นสมุฏฐาน มีกลุ่มของรูปที่เกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐาน มีกลุ่มของรูปที่เกิดจากอาหารเป็นสมุฏฐาน ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ทยอยกันเกิดขึ้นแล้วก็ทยอยกันดับไปอยู่เรื่อยๆ ทุกขณะ ในขณะนี้ ข้อสำคัญก็คือว่า แม้ว่ากลุ่มของรูปแต่ละกลุ่มที่ตัวของแต่ละคนจะทยอยกันเกิด แล้วก็ทยอยกันดับไป ทุกๆ ๑๗ ขณะของจิต ก็ไม่มีใครที่จะรู้เลย เพราะเหตุว่าการเกิดขึ้นและดับไปของรูปนั้นๆ ไม่ปรากฏ
ขณะนี้ที่ตัวมีใครรู้ไหมคะ ว่ากลุ่มรูปกลุ่มไหนกำลังเกิดและหลังจากนั้น ๑๗ ขณะก็ดับไป
นี่เป็นความจริง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าต่อไป รูปกลุ่มอื่นจะเกิดเมื่อไร แล้วก็จะดับไปอีกเมื่อไร เพราะเหตุว่าการเกิดดับของรูปก็เป็นไปอย่างรวดเร็วและก็เป็นไปโดยไม่ขาดสาย ตั้งแต่เกิดคือตั้งแต่ปฏิสนธิ จนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ กลุ่มของรูปก็ทยอยกันเกิดทยอยกันดับสืบต่ออยู่เรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ได้ดับไปเลย
ถ้าในขณะนี้สิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ปรากฏว่าดับ ขณะไหนๆซึ่งสติไม่เกิด ไม่ระลึกไม่รู้ ก็จะไม่ปรากฏว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในขณะนี้ดับ ทั้ง ๆ ที่มีอายุที่สั้นมาก เพียงแค่การเกิดและดับของจิต ๑๗ ขณะ
เพราะฉะนั้นก็จะอาศัยเพียงความเปลี่ยนแปลงสภาพของรูปนั้นๆ เท่านั้นที่ทำให้พอจะปรากฏเกิดให้รู้ได้ว่า รูปนั้นเปลี่ยนไป คือ ดับไป แต่ก็เป็นแต่เพียงการคิด การเข้าใจ หรือการคาดคะเน แต่ไม่ใช่เป็น การประจักษ์การเกิดดับจริงๆ ของรูป