การละคลายกิเลส
แล้วก็การที่จะละคลายกิเลส ไม่ใช่จากปุถุชนสู่ความเป็นพระอรหันต์ พระโสดาบันมีชีวิตอย่างคฤหัสถ์ ท่านอนาถปิณฑิกะท่านก็เป็นพ่อค้า นางวิสาขามิคารมาตา ท่านค้าขายมีธุรกิจการงาน มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ว่าจิตใจของท่านที่อบรมจนถึงความเป็นอริยะ ความเจริญถึงขีดขั้นของความเป็นอริยบุคคล คือ สามารถที่จะดับกิเลสได้เป็นขั้นๆ อย่างท่านวิสาขา ท่านยังมีโลภะ ท่านยังมีโทสะ แต่ท่านไม่มีความเห็นผิด ไม่มีความเข้าใจผิดในสภาพธรรม เพราะอาศัยการฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง และจากการที่ท่านอบรมเจริญมา จนกระทั่งท่านรู้แจ้งความจริงของสภาพธรรมนั้นๆ แต่ว่ายังไม่ใช่พระอรหันต์ตราบใด ท่านก็มีชีวิตอย่างชาวบ้านเป็นคฤหัสถ์ แต่ว่าเป็นครอบครัวที่ดีมีความสุข
นี่ก็เป็นเรื่องของปัญญา ปัญญาไม่ใช่ว่าทุกคนมี แต่เป็นสิ่งซึ่งจะเกิดมีขึ้นได้โดยอาศัยการฟัง การพิจารณา การไตร่ตรอง การสนทนา การเห็นประโยชน์ แล้วก็การฟังเพิ่มขึ้น เข้าใจเพิ่มขึ้น ปัญญาก็จะเจริญขึ้น
ที่ใช้คำว่า “ใช้สติ ใช้ปัญญา” เป็นคำพูดที่เลื่อนลอย เพราะว่าไม่เข้าใจว่า สติก็ไม่มี ปัญญาก็ไม่มี แล้วจะไปใช้ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้อบรม แต่ถ้ามีแล้ว เกิดแล้ว มีได้ ใช่ไหมคะ จะเกิดเมื่อไรก็ได้ แม้ในขณะนี้ปัญญาก็เกิดได้