มรณาสันณวิถีคืออะไร
ท่านผู้ฟังจะได้ยินคำใหม่หรือศัพท์ใหม่สำหรับบางท่าน แต่คงจะชินหูแล้วสำหรับผู้ศึกษาพระอภิธรรม คือคำว่า “มรณาสันนวิถี”
วิถีจิต หมายถึงจิตที่รู้อารมณ์ทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
ถ้าแบ่งจิตออกเป็น ๒ ประเภท คือ วิถีมุตตจิต จิตที่ไม่ใช่วิถี ไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ประเภทหนึ่ง และวิถีจิต คือ จิตที่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นวิถีจิต
เพราะฉะนั้น วิถีมุตตจิต คือ ขณะที่เป็นปฏิสนธิจิต ๑ ขณะที่เป็นภวังคจิต ๑ ขณนที่เป็นจุติจิต ๑ เท่านั้นที่เป็นวิถีมุตตจิต นอกจากนี้แล้ว ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย คิดนึก ทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทวาร เป็นวิถีจิตทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น มรณาสันนวิถี หมายความถึงวิถีจิตที่รู้อารมณ์ทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทวาร ก่อนจุติ ชื่อว่า มรณาสันนวิถี คือวิถีจิตสุดท้ายก่อนจุติจิตจะเกิด ธรรมดาของชวนวิถีจิตจะเกิดซ้ำถึง ๗ ขณะ ขณะที่เห็น ขณะที่ได้ยิน ปกติชวนวิถีจิตจะเกิด ๗ ขณะ แล้วแต่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล แต่ว่าในขณะที่กำลังสลบ ชวนวิถีจะเกิดซ้ำกัน ๖ ขณะ เป็นสภาพของจิตที่ไม่ประกอบด้วยสัมปชัญะ อย่างทั่วๆ ไปที่ใช้กันอยู่ว่า ไม่สมบูรณ์ด้วยสติสัมปชัญญะ และก่อนจุติจริงๆ ชวนวิถีจะเกิดเพียง ๕ ขณะ เพราะเหตุว่ามีกำลังอ่อนลง ใกล้ถึงการดับจากภพนี้ชาตินี้ ความเป็นบุคคลนี้
เพราะฉะนั้น ก่อนจุติจิตจะเกิด ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่า ชวนวิถีสุดท้ายจะเป็นกุศลหรือจะเป็นอกุศล จะเป็นการรู้อารมณ์ทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจ เพราะเหตุว่าแม้ในขณะนี้เอง ทางจักขุทวารวิถีจิตที่เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาดับไปแล้ว มีภวังคจิตเกิดคั่น แล้วมโนทวารวิถีจิตก็เกิดต่อ หรือว่าทางหูที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ โสตทวารวิถีจิตเกิดขึ้นได้ยินเสียง ดับไปหมดแล้ว มีภวังคจิตเกิดคั่น แล้วมีมโนทวารวิถีจิตเกิดต่อ เพราะฉะนั้น จุติจิตจะเกิดหลังการสิ้นสุดวิถีหนึ่งวิถีใดย่อมเกิด คือหลังจากจักขุทวารวิถีจิตดับไปหมดแล้ว จุติจิตเกิดก็ได้ หรือหลังจากจักขุทวารวิถีจิตเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏ ดับไปหมดแล้ว แล้วภวังคจิตยังไม่เกิด จุติจิตเกิดก็ได้ หรือในขณะที่กำลังได้ยินเสียงขณะนี้ โสตทวารวิถีจิตเกิดขึ้นได้ยินเสียงทางโสตทวาร ดับไปหมดแล้ว ภวังคจิตเกิดแล้วจุจิตเกิดก็ได้ หรือเมื่อได้ยินเสียงแล้ว โสตทวารวิถีจิตดับไปหมดแล้ว ภวังคจิตยังไม่เกิด จุติจิตเกิดก็ได้ หรือบางท่านในขณะนี้กำลังนึกคิดเรื่องหนึ่งเรื่องใด แล้วมโนทวารวิถีจิตดับหมดแล้ว จุติจิตเกิดก็ได้
นี่แสดงให้เห็นว่า จุติจิตซึ่งกระทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ จะเกิดในขณะไหนได้ทั้งสิ้น หลังจากวิถีจิตทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจก็ได้ หรือหลังภวังคจิตก็ได้
เพราะฉะนั้น ชวนะสุดท้ายก่อนจุติจิตจะเกิด เป็นมรณาสันนวิถี ซึ่งเลือกไม่ได้ เหมือนในขณะนี้เอง ถ้าเป็นทางตาที่เห็น จักขุทวารวิถีดับหมดแล้ว แล้วจุติจิตเกิด ขณะนั้นมีกัมมนิมิตอารมณ์ ถ้ากำลังเห็นเดี๋ยวนี้ แล้วมีท่านผู้หนึ่งจุติจิตเกิดขึ้น ทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ คือ สิ้นชีวิตลง หลังจากจักขุทวารวิถีดับไปแล้ว ขณะนั้นมีสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเป็นกัมมนิมิตอารมณ์ สำหรับปฏิสนธิจิตในชาติต่อไป ถ้าในขณะที่โสตทวารวิถีจิตเกิดขึ้นได้ยินเสียง ดับไปแล้วหมด ชวนะสุดท้ายในขณะที่กำลังได้ยินในขณะนี้ จะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ตาม ในขณะนั้นมีเสียงเป็นกัมมนิมิตอารมณ์