จิตจะสงบได้เพราะอะไร
ถ้าท่านระลึกรู้ลักษณะของจิตที่เป็นกุศลที่เป็นเมตตาแล้วรู้ในลักษณะของความสงบซึ่งต่างกับลักษณะของโทสะ และเมตตาจะเกิดบ่อยขึ้น หรือกรุณาก็ตาม มุทิตาก็ตาม อุเบกขาก็ตาม สภาพธรรมที่เป็นกุศลปรากฏตามความเป็นจริง ให้ระลึกเนืองๆ เมื่อระลึกเนืองๆ จิตสงบขึ้นไหม
เพราะฉะนั้น ความสงบต้องเกิดพร้อมปัญญา ที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏในขณะนั้น ก็เวลานี้ลมหายใจปรากฏแล้วสงบไหม นี่คือขั้นต้น เหมือนเวลาเห็นคนหนึ่งคนใด จิตสงบไหม ถ้าจะเจริญสงบก็ต้องในขณะที่กำลังจะฆ่าสัตว์ ฆ่ายุง ฆ่ามด ไม่สงบ ขณะที่ไม่ฆ่า สงบ สีลานุสติ จาคานุสติ มรณสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ อารมณ์ที่ให้จิตสงบ มี ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็จะเป็นความสงบขึ้นมาด้วยโลภะ ด้วยการจดจ้อง โดยปัญญาไม่เกิดเลย ไม่ใช่อย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ความสงบที่ลมหายใจเดี๋ยวนี้ที่กำลังรู้ มีความสงบหรือมีแต่ความจดจ้อง ขณะนี้สงบได้ไหม เท่านี้ก่อน ถ้าสงบได้เพราะอะไร เพราะระลึกรู้ที่ลมหายใจ หรือเพราะเหตุอื่น รู้ด้วยในอาการที่ไม่สงบของจิต และจิตจะสงบได้เพราะอะไร ที่จะต้องถามตัวเอง ถ้าเกิดความสงบขึ้นเดี๋ยวนี้ เพราะอะไร .นี่เป็นปัญญาที่รู้ว่า สงบเพราะอะไร ลมหายใจมี ระลึกที่ลมหายใจแล้วสงบ หรือเพราะอย่างอื่นจึงสงบ ตามความเป็นจริง ธรรมเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องตรง สงบเพราะอะไร สงบเพราะระลึกอย่างไร
การอบรมเจริญสมถภาวนาเป็นเรื่องที่ละเอียดกว่าขั้นทาน และขั้นศีลแน่นอน แม้แต่ทาน บางครั้งก็ยังสงสัยว่า นี่เป็นทานหรือเปล่า อย่างการให้ บางท่านก็ยังงงว่า ให้อย่างนี้จะเป็นทานไหม คือไม่รู้ลักษณะของกุศลที่มีเจตนาจะสละวัตถุเพื่อประโยชน์สุขของคนอื่น ไม่ใช่เพียงดูอาการภายนอกที่จะหยิบยื่นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อบุคคลใด อาจจะเพื่อหวังผลว่า เป็นการแลกเปลี่ยนก็ได้ ซึ่งไม่ใช่เจตนาให้
เพราะฉะนั้น เรื่องของการอบรมเจริญความสงบเป็นเรื่องที่ละเอียดกว่า เป็นกุศลที่ควรเจริญ เพราะเหตุว่ารู้โทษของอกุศลซึ่งเป็นไปอย่างละเอียดยิ่ง