ทุกคนหลับเพื่อรอวิบากทางทวารต่างๆ ในวันถัดไป


    มีข้อสงสัยในเรื่องนี้ไหมคะ ท่านที่ชอบหลับ อยากหลับตลอดไปหรือเปล่าคะ หรือชอบอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่ชอบแต่หลับอย่างเดียว ลองคิดดูนะคะ ทำไมเราถึงไม่ได้หลับตลอดไป ทุกคนหลับจริง แต่ไม่ได้หลับตลอดไป เพราะเหตุว่ามีกรรมที่ทำให้ต้องเห็น จึงต้องตื่น และจริงๆ แล้วก็ยังอยากเห็น ยังอยากได้ยิน

    เพราะฉะนั้นคืนนี้ทุกคนจะหลับด้วยการรอวิบากของวันรุ่งขึ้นที่จะเกิด โดยที่ไม่รู้เลยว่า วิบากประเภทใดจะเกิดขึ้น ถ้าไม่คิดถึงคืนนี้ที่จะเกิด ก็ขอให้คิดถึงเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมาแล้วที่หลับ ก่อนหลับรออะไรหรือเปล่าที่จะเกิดหลังจากที่ตื่นแล้ว

    เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า สำหรับปฏิสนธิจิต และภวังคจิตจะกล่าวไปแล้ว ก็เหมือนไม่มีบทบาทอะไรเลย จริงๆ แล้วจิตแต่ละประเภทมีความสำคัญ เพราะว่าปฏิสนธิจิตก็สำคัญว่า จะทำให้เป็นบุคคลไหน และจะทำให้ตลอดชีวิตนั้นจะมีวิบากประเภทใดเกิดขึ้นบ้าง ตามกำลังของกรรมที่ได้กระทำแล้ว ซึ่งเปรียบเสมือนไร่นา จะมีนากว้างใหญ่ หรือจะมีนาแคบเล็ก จะมีดินดีหรือดินไม่ดีพวกนี้ เป็นปัจจัยให้พืชงอกงามมากหรือน้อย

    นี่ก็คือกรรมนั้นที่ทำให้ปฏิสนธิ เป็นปัจจัยจะทำให้ตลอดชีวิตนั้นจะมีกรรมอะไรอีกที่สามารถจะให้ผลได้

    สำหรับปฏิสนธิจิตเหมือนไม่มีความหมาย เพราะเหตุว่าไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้จักแม้ว่าตัวเป็นใคร ชื่ออะไร และขณะที่เป็นภวังคจิตก็เช่นเดียวกัน ดำรงภพชาติสืบต่อจากปฏิสนธิ เมื่อปฏิสนธิจิตเป็นจิตประเภทใดดับไป กรรมไม่ได้เพียงทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดเท่านั้น แล้วก็ตาย แต่กรรมทำให้จิตประเภทเดียวกันนั้นทำกิจดำรงภพชาติสืบต่อ เพื่ออะไรคะ รอวิบากอื่นที่จะเกิด

    เพราะฉะนั้นทุกคนที่ตื่นแล้วก็หลับ หลับแล้วก็ตื่นทุกวันๆ ให้ทราบว่าขณะที่เป็นภวังค์ในขณะที่หลับในคืนหนึ่งๆ เป็นจิตที่ทำกิจรอวิบากที่จะเกิดในวันต่อไป โดยไม่มีใครสามารถรู้ได้

    มีผู้ที่ตระเตรียมเดินทางไปพักผ่อน ทุกอย่างพร้อม แต่ก็มีเหตุที่ทำให้ไม่ได้เดินทาง

    นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ก่อนจะหลับก็รอวิบากประเภทหนึ่งที่คิดไว้ว่า จะรอวิบากอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่มีใครรู้ได้จริงๆ ว่า แม้วิบาก คือ การเห็น การได้ยินเหล่านี้ ก็จะต้องเป็นไปตามกรรมซึ่งจะเป็นปัจจัยให้วิบากนั้นๆ เกิดขึ้น เป็นไปตามความคิดหรือความพอใจ หรือความหวัง ความต้องการ

    เพราะฉะนั้นถ้าคืนนี้หลับด้วยความปลอดโปร่ง คือ ไม่รออะไรทั้งสิ้น เพราะไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดเพราะกรรมใดเป็นปัจจัย ก็จะเบาสบาย แทนที่จะห่วงวิตกกังวลว่า วิบากนั้นๆ จะเกิดหรือจะไม่เกิด

    สำหรับภวังคจิตเป็นปภัสสรจิต หมายความว่าในขณะนั้นยังไม่มีอกุศลใดๆ เกิดร่วมกับจิตที่กำลังทำกิจภวังค์ สำหรับผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ที่ไม่พิการ ก็เป็นมหาวิบากดวงหนึ่งดวงใดใน ๘ ดวง

    พอตื่นขึ้นมาตอนกลางวัน รอวิบากหรือเปล่าคะ ขณะใดที่เป็นภวังค์ ขณะนั้นไม่ใช่วิบากทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เพราะฉะนั้นขณะที่ตื่นแล้ว ภวังคจิตคั่นรอวิบากอย่างสั้นๆ และเร็วมาก เพราะเหตุว่าวิบากมาเร็วมาก ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย โดยไม่รู้ตัวว่า ขณะนั้นๆ เป็นวิบาก แต่ให้ทราบว่า ขณะใดที่เป็นภวังค์ ขณะนั้นกำลังรอวิบากอื่นที่จะเกิดขึ้นต่อไป

    และวันนี้ใครรู้บ้างว่า ภวังค์เกิดเพียงเพื่อรอวิบากอื่นที่จะเกิด เพราะว่าวิบากขณะที่ตื่นมาอย่างเร็วมาก ขณะนี้เท่าไรแล้วคะวิบาก ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย


    หมายเลข 4728
    2 ส.ค. 2567