ภวังคจิตเป็นจิตที่มีจริงแต่รู้ได้ยาก
เรื่องของภวังคจิตเป็นเรื่องที่ยากที่จะรู้ได้ คือ ภวังคจิตจะเกิดคั่นทุกวาระวิถีที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางทวารหนึ่งทวารใด มีใครสามารถจะรู้ภวังคจิตขณะนี้ได้ไหมคะ ทั้งๆ ที่ทางตาที่เห็น ก็เป็นการรู้อารมณ์ลักษณะหนึ่ง คือ รู้สิ่งที่ปรากฏทางตา และในขณะที่กำลังได้ยิน ขณะนี้เสียงก็เป็นสภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏทางตา โลกของสิ่งที่ปรากฏทางตาเงียบมาก ถ้าไม่มีการได้ยิน มีแต่สิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น จะเป็นโลกที่เงียบ สำหรับผู้ที่มีโสตปสาท ไม่มีการได้ยินเลย สำหรับผู้มีทั้งจักขุปสาท โสตปสาท ก็จะเห็นว่า อารมณ์ที่กำลังปรากฏเสมือนไม่ได้แยกขาดจากกัน คือ ทั้งๆ ที่เห็น และก็ได้ยิน แต่ถ้าจะพิจารณาจริงๆ ก็สามารถจะรู้ได้ว่า ขณะที่เห็นซึ่งไม่ใช่ขณะที่ได้ยิน และขณะที่ได้ยิน ซึ่งไม่ใช่ขณะที่เห็น จะต้องมีสิ่งที่ตัด หรือแทรก หรือคั่น
เพราะฉะนั้นโดยความเข้าใจขั้นปริยัติ ก็รู้ว่า ต้องมีภวังคจิต นี่คือเหตุผล และการที่จะประจักษ์แจ้งจริงๆ ว่า ขณะที่รูปปรากฏทางตา แยกขาดจากรูปที่ปรากฏทางหู ต้องเป็นสิ่งที่สามารถประจักษ์แจ้งได้ แต่ต้องอาศัยการฟัง และความเข้าใจที่มั่นคง ค่อยๆ พิจารณาไป สติเกิดระลึกค่อยๆ เข้าใจขึ้น ค่อยๆ รู้ขึ้นในลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม จนกว่าจะชินทั้ง ๖ ทวาร
เพราะฉะนั้นเมื่อกล่าวถึงภวังคจิต ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง และที่จะรู้ว่า มีได้ ลักษณะของภวังคจิตที่จะปรากฏขณะที่นอนหลับสนิท ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ไม่คิดนึก
กำลังหลับสนิทจริงๆ ทุกคนรู้ว่า หลับสนิท แต่ว่าเป็นจิตประเภทหนึ่งซึ่งเกิดดับสืบต่อดำรงภพชาติโดยไม่เห็น โดยไม่ได้ยิน โดยไม่ได้กลิ่น โดยไม่ได้ลิ้มรส โดยไม่ได้รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส โดยไม่คิดนึก
เพราะฉะนั้นเมื่อภวังคจิตเป็นสิ่งที่มีจริง แล้วลักษณะสภาพของภวังคจิต ก็คือจิตซึ่งรู้อารมณ์เดียวกับปฏิสนธิจิต ซึ่งไม่ใช่อารมณ์ของโลกนี้ที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ