ศึกษาเรื่องเหตุปัจจัยเพื่ออะไร


    เพราะฉะนั้นที่ทุกท่านสนใจฟังพระธรรม และศึกษาเรื่องของปัจจัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียด และเป็นนามธรรมและรูปธรรมนั่นเองจะทราบไหมว่าเพราะอะไร หรือว่าทำไมจึงศึกษา

    ถ้าโลภเจตสิกเกิด ที่จะไม่ให้จิตนั้นติดหรือต้องการอารมณ์ เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุว่าโลภเจตสิกเป็นเห-ตุปัจจัย ฉันใด เวลาที่อโลภเจตสิกเกิดอโมหเจตสิกเกิด ที่จะไม่ให้จิตเป็นกุศล เป็นโสภณ เป็นจิตที่ดีงามในขณะนั้นก็ไม่ได้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเลย

    นี่คือประโยชน์ของการที่สติจะระลึกรู้จริง ๆ ในสภาพที่ต่างกันของกุศลธรรมและอกุศลธรรม

    เพราะแม้แต่กุศลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพียงแต่ว่าถ้าสติไม่ระลึก ก็ไม่สามารถจะเห็นลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นกุศลได้ ถ้าท่านผู้ฟังช่วยเหลือบุคคลอื่น มีจิตเมตตาต่อบุคคลอื่น ดูเป็นสิ่งซึ่งอาจจะเกิดได้ง่ายและรวดเร็วจนกระทั่งเป็นปกติ เพราะเหตุว่าเป็นอุปนิสัย เป็นสิ่งซึ่งสะสมมาจนกระทั่งมีกำลัง เกิดขึ้นโดยสะดวก แต่ให้ทราบว่า ในขณะนั้นอโลภเจตสิกเป็นเหตุ อโทสเจตสิกเป็นเหตุ เมื่ออโลภะและอโทสะซึ่งเป็นโสภณเหตุเกิดขึ้นแล้วที่จะไม่ให้จิตคิดเมตตาหรือคิดช่วย หรือว่าเป็นโสภณในขณะนั้นก็เป็นไปไม่ได้

    เพราะฉะนั้นก็คือลักษณะของเห-ตุปัจจัยนั่นเอง ไม่ว่าในขณะนั้นจะเป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต ก็เพราะเจตสิกซึ่งเป็นเห-ตุปัจจัยนั่นเองเกิดขึ้น ทำให้จิตในขณะนั้นเป็นไปอย่างนั้น


    หมายเลข 4740
    28 ส.ค. 2558