โลภเจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูป
โลภเจตสิกเป็นเห-ตุปัจจัยทำให้เกิดปัจจยุปบัน คือ โลภมูลจิต และเจตสิกซึ่งเกิดร่วมด้วยและจิตตชรูป
เพราะฉะนั้นถ้าถามย้อนไปว่าโลภเจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูปหรือเปล่า ? เหตุนะคะ เจตสิกนะคะ โลภเจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดรูปหรือเปล่า ?
นี่บางทีก็เข้าใจว่าได้เข้าใจมาบ้างแล้วพอสมควร แต่ยังมีความละเอียดอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งควรจะเข้าใจให้ชัดเจนจริง ๆ เมื่อถึงสหชาตปัจจัยแล้ว อย่าลืมทีเดียวว่าจิตและเจตสิกเกิดพร้อมกัน เป็นอัญญมัญญปัจจัยด้วย
เพราะฉะนั้นถ้ายกเจตสิกหนึ่งเป็นเหตุ คือ โลภเจตสิกเป็นเหตุ อย่างอื่นต้องเป็นปัจจยุปบัน จิตที่เกิดร่วมด้วยก็ต้องเป็นปัจจยุปบัน เพราะกล่าวถึงโลภเจตสิกในขณะนั้นเป็นตัวเหตุ สภาพธรรมอื่นจะเป็นตัวเหตุไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่เกิดพร้อมกัน โลภเจตสิกเกิดพร้อมกับโลภมูลจิต เกิดพร้อมผัสสเจตสิก สัญญาเวทนาต่างๆ แต่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอื่น
เมื่อจะกล่าวถึงสถาพธรรมที่เป็นเหตุ ก็จะต้องกล่าวเฉพาะโลภเจตสิกเท่านั้น แม้ว่าสภาพธรรมอื่นจะเป็นสหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัยเกิดพร้อมกันอาศัยกันก็จริง เมื่อกล่าวถึงเฉพาะเห-ตุปัจจัยแล้วโลภะเป็นเห-ตุปัจจัย สภาพธรรมอื่นซึ่งเกิดพร้อมกันในขณะนั้นด้วยเป็นปัจจยุปบัน
เพราะฉะนั้นโลภเจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูปหรือเปล่า โลภเจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดโลภมูลจิตและเจตสิกทุกดวงซึ่งเกิดกับโลภมูลจิตต้องเว้นโลภเจตสิก เพราะเหตุว่ายกโลภเจตสิกเป็นปัจจัย เพราะฉะนั้นโลภมูลจิตและเจตสิกอื่น ซึ่งเกิดกับโลภมูบลจิตเป็นปัจจยุปบัน และจิตตชรูปก็เป็นปัจจยุปบันเกิดขึ้นเพราะโลภะเหตุเป็นปัจจัยโดยเห-ตุปัจจัย