คำถามทบทวนเรื่องของปัจจัย 7 ปัจจัย


    มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหม ?ในเรื่องปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงแล้ว ๗ ปัจจัย ขอทบทวนทั่ว ๆ ไปอีกเล็กน้อย เพื่อความเข้าใจชัดเจนขึ้น

    ต่อจากเห-ตุปัจจัย ก็เป็นอธิปติปัจจัย อีกแล้ว

    ในคราวก่อน ได้กล่าวถึงโลภเหตุ โทสเหตุว่าเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้หรือไม่ได้ ? อย่าลืมว่า กล่าวถึงปัจจัย

    โลภเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยของจิตและเจตสิกซึ่งเกิดร่วมด้วย

    แต่โลภเจตสิก เป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ไหม ? ไม่ได้

    เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม เพราะเหตุว่าอธิปติปัจจัยมี ๒ เมื่อเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยไม่ได้เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ?ได้แน่นอน อย่าลืมว่าทุกคนชอบโลภะ ปรารถนาโลภะ หวังโลภะ เพราะฉะนั้นสภาพของโลภะเป็นสภาพซึ่งพอใจอย่างยิ่ง จึงเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้

    โลภมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ? เมื่อกี้กล่าวถึงโลภเจตสิก ตอนนี้กล่าวถึงโลภมูลจิต โลภมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ? ได้

    เพราะฉะนั้นสำหรับโมหเจตสิก อย่าลืม โมหเหตุเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ไหม ?ไม่ได้

    โมหมูลจิต เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ?ไม่ได้

    เป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ไหม ?

    อย่าลืม อารัมมณาธิปติเว้นโทสมูลจิต ๒ ดวง โมหมูลจิต ๒ ดวง ทุกขกายวิญญาณจิต ๑ ดวงเพราะเหตุว่าไม่มีใครปรารถนาโทสมูลจิต โมหมูลจิต และทุกขกายวิญญาณจิต ถ้ากล่าวโดยนัยของอารัมมณาธิปติปัจจัย

    เพราะฉะนั้นโมหเหตุคือ โมหเจตสิกเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ไหม ?

    สหชาตาธิปติไม่ยากเพราะเหตุว่าได้แก่ ฉันทะเจตสิก วิริยเจตสิก ปัญญาเจตสิก และชวนจิต ๕๒ ดวง เว้นโมหมูลจิต ๒และหสิตุปปาท ๑ คือ เว้นชวนจิตซึ่งไม่ประกอบด้วยเหตุ หรือที่ประกอบด้วยเหตุเดียว ที่จะมีกำลังเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ต้องประกอบด้วยอย่างน้อย ๒ เหตุ

    นี่คือการที่จะพยายามเข้าใจและทบทวน เพื่อการที่จะจำไปในตัว โดยที่จะไม่ลืม เพราะเหตุว่าคงจะต้องลืมกันบ้าง แต่ถ้าทบทวนบ่อย ๆ ก็คงไม่ลืม

    เพราะฉะนั้นถ้าถามโดยนัยของอารัมมณาธิปติไม่ใช่สหชาตาธิปติแล้ว โมหมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ?

    โมหมูลจิตใครอยากได้ ? อย่าลืม โมหมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยไม่ได้

    โมหเจตสิกเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยไม่ได้

    เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ?

    ต้องคิดกันอีกแล้วใช่ไหม ? ความละเอียด เรื่องของปัจจัยเป็นเรื่องที่ละเอียดอย่างนี้

    ทุกคนมีโลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต แล้วทุกคนก็กล่าวว่า แล้วแต่เหตุปัจจัย แล้วแต่เหตุปัจจัย แต่ว่าเหตุปัจจัยอะไร ? เช่น

    โมหเจตสิกเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ไหม ?

    โมหเจตสิกในโมหมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยไม่ได้

    โมหเจตสิกในโลภมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ ถูกไหมคะ ? อย่าลืม สหชาตปัจจัยจิตและเจตสิกเกิดร่วมกัน เป็นอัญญมัญญปัจจัย เป็นสัมปยุตตปัจจัย

    โมหเจตสิกเกิดกับอกุศลจิตทุกดวง เพราะฉะนั้นในขณะที่โมหเจตสิกเกิดกับโมหมูลจิต เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยไม่ได้

    โมหมูลจิตก็เป็นอารัมมณธิปติปัจจัยไม่ได้

    โมหเจตสิกก็เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยไม่ได้

    แต่โลภมูลจิตทุกคนชอบโลภเจตสิกเกิดกับโลภมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้

    เพราะฉะนั้นเจตสิกทุกดวงที่เกิดกับโลภมูลจิต แม้โมหเจตสิกก็เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้ ขอให้เกิดกับโลภะเถอะค่ะ ไม่อยากจะรู้หรอกอริยสัจธรรมน่ะ ใช่ไหมคะ ? ทิ้งไว้ก่อนรอได้ เพราะเหตุว่ากำลังเป็นโลภะ โมหะก็ไม่เป็นไร ถูกไหม ? กำลังชอบกำลังเพลิน

    เพราะฉะนั้นโมหเจตสิกในโลภมูลจิตจึงเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัย กำลังสนุก ๆ จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมเอาไหม ? ชวนกันไปรู้แจ้งอริยสัจธรรมในขณะนี้ล่ะ ขณะที่กำลังสนุก ๆรอไว้ก่อนกำลังสนุก

    เพราะฉะนั้นโมหเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิต จึงเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยได้

    แต่โมหเจตสิกซึ่งเกิดกับโมหมูลจิตเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยไม่ได้

    ไม่ต้องรีบร้อนที่จะให้จบปัจจัยโดยเร็ว เพราะเหตุว่าที่จริงแล้วนี่ก็ไม่ช้า ๗ ปัจจัยแล้ว ปัจจัยทั้งหมดก็มีเพียง ๒๔ ปัจจัย และปัจจัยแต่ละปัจจัยก็เป็นสภาพธรรมที่คุ้นเคย ชินหู เพียงแต่ความละเอียด เป็นเรื่องที่จะต้องเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมแต่ละอย่างจริง ๆว่าสภาพธรรม เช่น โมหเจตสิกถ้าเกิดตามลำพังตนเองในโมหมูลจิตแล้ว ไม่มีกำลังอะไรไม่รู้อารมณ์ ไม่ติดในอารมณ์ เพราะเหตุว่าขณะนั้นโลภเจตสิกไม่ได้เกิดด้วย เพราะฉะนั้นไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัย

    ก็เป็นเรื่องนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้นเองใช่ไหมคะ ซึ่งเกิดดับเป็นปกติในชีวิตประจำวัน


    หมายเลข 4749
    28 ส.ค. 2558