มหาวิบากญานวิปยุตต์ และ ญานสัมปยุตต์


    แต่ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมที่มีกำลังขึ้น ก็ยังต้องแยกออกเป็น ๒ ประเภทว่า เป็นผลของกุศลกรรมที่ประกอบด้วยปัญญาหรือไม่ประกอบด้วยปัญญา ถ้าเป็นกุศลกรรมที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา เช่น การให้ทาน หรือในขณะที่ไม่ศึกษาพระธรรม ไม่ใช่การเข้าใจพระธรรม ไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา ก็จะทำให้มหาวิบากทำกิจปฏิสนธิ แต่เป็นมหาวิบากประเภทที่ไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย

    เพราะฉะนั้นก็เป็นชีวิตที่แต่ละท่านก็พอที่จะเลือกอบรมได้ว่า ต้องการปฏิสนธิชนิดไหน ถ้าต้องการปฏิสนธิที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ชาตินั้นทั้งชาติก็ไม่มีความสนใจในพระธรรมถึงขั้นที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้

    สำหรับบางท่านที่เป็นผลของกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา ก็ทำให้มหาวิบากปฏิสนธิประกอบด้วยปัญญา บางท่านยังไม่ค่อยจะสนใจศึกษาพระธรรม หรือถึงแม้ว่าศึกษาแล้ว ก็แล้วแต่ระดับขั้นของปัญญาที่สะสมมาว่าเป็นปัญญาขั้นไหน ถ้าเป็นปัญญาที่มีกำลัง ก็สามารถเข้าใจพระธรรมได้อย่างรวดเร็ว และบางท่านก็สามารถเพียงฟังก็สามารถรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม ประจักษ์แจ้งการเกิดดับ การรู้แจ้งอริยสัจธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคลได้

    เพราะเหตุว่าสภาพธรรมกำลังปรากฏ แต่ว่าปรากฏกับผู้ที่สะสมปัญญามาน้อย หรือมาก หรือไม่ได้สะสมปัญญามาเลย ถ้าสะสมปัญญามา ก็เข้าใจทันที ถ้าสะสมปัญญามามาก ก็สามารถประจักษ์แจ้งการเกิดดับของกำลังเห็นในขณะนี้ได้ กำลังได้ยินในขณะนี้ได้

    นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายกุศลวิบาก ๑๘ ดวง ก็ต้องมีการประณีตเพิ่มขึ้นตามขั้นของเหตุซึ่งได้กระทำแล้ว


    หมายเลข 4758
    9 ก.ย. 2567