สมถภาวนาต้องไปเจริญในห้องไหม


    ท่านอาจารย์ มีท่านผู้ฟังมีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะ เชิญคะ

    ผู้ฟัง ผมอยากจะถามว่าการเจริญสมถะ เป็นต้นว่าเมตตา จำเป็นไหมครับจะต้องไปอาศัยห้องหรือภาวนาในห้อง ในอะไรต่างๆ ถ้าจะเกิดจำเป็นจะต้องไปเกิดในห้องหรือเปล่า

    ท่านอาจารย์ ขณะนี้ ยังไม่ถึงข้างหน้า และอดีตก็ผ่านไปแล้ว เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญภาวนาไม่ใช่คอยวันเวลา ทั้งสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา

    ผู้ฟัง ผม มันมีระลึกอยู่ เมื่อก่อนนี้เคย ไปเจอะอาจารย์ท่าน ๑ ท่านบอกว่าให้ เจริญเมตตา บอกว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถึงเวลามีเวลาก็ให้นั่น เจริญมาตั้งเป็น สิบๆ ปีก็ไม่มีความเมตตา ที่รู้ว่าไม่มีความเมตตาๆ เพราะอะไร มันยังมีการฆ่า มีการฆ่าสัตว์ ฆ่าปลา ฆ่า อะไรต่ออะไรอยู่ เวลามันเจริญอยู่ มันก็ไม่ฆ่า เวลาออกมามันฆ่า ทีนี้ผม ก็มา มีคราว ๑ ที่ผมเคยเล่าให้อาจารย์ฟังว่า ขึ้นไปรื้อหลังคาแล้วไปเจอะนกที่เจ้าบ้านจะเอา แล้วก็ ตกลงไม่ได้เอาให้เขา แล้วเจ้าของบ้าน พ่อบ้านก็มาบอกว่าจะไปทำ ทำไม ก็สัตว์โลกด้วยกัน อันนี้ผมสดุดใจ ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา คือว่าเห็นสัตว์ เห็นอะไรมันก็ คิดว่าเป็นเพื่อร่วมโลกด้วยกัน เป็นสัตว์ ร่วมโลกด้วยกัน ความเมตตาที่ไม่เคย ภาวนาเลย แต่มันก็เมตตาอยู่เรื่อยไป ซ็ำมี มาอีกครั้ง ๑ ผู้ที่เคยได้เฝ้าสมเด็จพระสังฆราช วัดสะเกศ องค์ที่ท่านล่วงไปแล้ว ท่านมีหมาที่ขึ้นมาอยู่ในกุฏิท่านเยอะแยะ ใครๆ ไปคงจะรู้ สกปรก มีเด็กวัด พอแขกผู้ใหญ่มา มันก็ไปไล่ ท่านก็บอก เออะ เจ้าจะไปทมันทำไม จะไปตีมันทำไม เจ้ารู้หรือเปล่า ว่า นั่นนะ ชาติก่อนเคยเป็นพ่อเป็แม่เป็นคู่อาฆาต เป็นเมียเจ้า เป็นแม่เจ้า เป็นอ ะไรต่ออะไร ท่านรู้หรือเปล่า ผมได้ยิน จำอันนี้ ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา ไม่ต้องภาวนา ไปเจอะที่ไหนก็รู้สึกว่า มีเมตตาเกิดขึ้น ผมคิดว่า จำเป็นจะเข้าไปอยู่ในห้อง ไปภาวนาเมตตา ให้ไปภาวนาสักร้อยปี ถ้าใจไม่มีปัญญา ไม่มี ผมว่าคงไม่เกิดผลอะไร

    ท่านอาจารย์ ท่านผู้ฟัง ก็คงจะได้เห็นด้วยตัวของท่านเอง ว่าเมตตานั้นอยู่ที่จิต ไม่ใช่อยู่ที่คำท่องบ่น หรือคำกล่าว เพราะว่าขณะที่ท่านจะกล่าวคำ ที่แสดงถึงเมตตา เช่น ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงอย่ามีเวร มีภัย ต่อกันเลย แต่ว่าจิตในขณะนั้น เป็นอย่างไร เป็นอย่างที่ปากว่า หรือเปล่า หรือว่าปากพูดอย่าง ๑ แต่จิตในขณะนั้นที่กล่าวอย่างนั้นไม่ประกอบด้วยเมตตา ตรงกับคำที่กล่าว เวลาที่เห็นสัตว์เล็ก สัตว์น้อย หรือว่าเห็นบุคคล ๑ บุคคลใด แล้วก็เกิดเมตตาจิตในขณะนั้น ขณะนั้นชื่อว่าเป็นการอบรมเจริญภาวนาเมตตาแล้ว เพราะเหตุว่าถ้าท่านไปท่องบ่น แต่ว่าไม่รู้สภาพของจิตในขณะนั้น ว่าไม่ได้ตรงกับคำที่กล่าวเลย ก็เป็นแต่เพียงคำพูดเท่านั้นซึ่งใครๆ ก็พูดได้กล่าวได้ ไม่ว่าเด็กเล็กอย่งไร ก็สามารถที่จะกล่าวตามๆ กันไปได้ แต่ว่าจิตในขณะที่กล่าวนั้น ประกอบด้วยเมตตา หรือไม่ ใครจะทราบ บุคคลอื่นก็ไม่สามารถที่จะทราบได้ นอกจากจิตใจของท่านเอง คำพูดประโยคเดียวกัน นี่คะ ถามไถ่ทุกข์สุข ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความเป็นอยู่ของบุคคลอื่น ตัวท่านเองสามารถที่จะสังเกตุพิจารณาจิตของท่านได้ แต่ละครั้งว่าขณะนั้นประกอบด้วยเมตตาหรือว่าไม่ประกอบด้วยเมตตา ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย ทางวาจาก็ตาม สามารถที่จะพิจารณารู้ สภาพของจิตในขณะนั้นได้จริงๆ ว่าประกอบด้วยเมตตาหรือไม่ เพราะฉะนั้น เรื่องความเข้าใจผิด ที่ว่าต้องไปสู่ที่ ๑ ที่ใด หรือว่าจะต้องกล่าวคำเป็นภาษาบาลี ในการที่จะเจริญสมถะ โดยที่ไม่ศึกษาไม่รู้ลักษณะสภาพของจิตที่สงบ นี่คะ ย่อมไม่สามารถที่จะเจริญ สมถภาวนา หรือความสงบของจิตได้เลย


    หมายเลข 4776
    3 ส.ค. 2567