เมื่อความสนใจพระธรรมน้อยลง


    ผู้ฟัง ผมเองบางครั้งก็ได้ชื่อว่าคุณประมาท เพราะเคยมีความรู้สึกว่า ธรรม บางครั้งมันเซ็งๆ เนือยๆ เพราะไม่เหมือนกับที่อื่นเขา เขาไปนั่ง และเห็นอะไรๆ วูบวาบๆ กันได้ เขาก็ตื่นเต้นกันไป แห่แหนกันไปก็มากมาย แต่อย่างที่อาจารย์บรรยายอยู่นี่ เป็นธรรมจักรจริงๆ เมื่อเป็นธรรมจักรแล้ว ก็ยาก เมื่อยากก็รู้สึกว่า ไม่เห็นอะไร ไม่ได้อะไรขึ้นมา

    ท่านอาจารย์ มีสภาพธรรมกำลังปรากฏ แต่ก็รู้สึกว่า ไม่เห็นอะไร กำลังเห็นเป็นธรรมกำลังได้ยินเป็นธรรม ชีวิตประจำวันไม่พ้นจากธรรม แต่ก็ไม่เห็นอะไร คำพูดนี้ก็จริง เพราะต้องเป็นปัญญาที่เห็น และที่จะเห็นว่าเป็นธรรมได้ ไม่ใช่เพียงขั้นการฟังเข้าใจ เพราะว่าขั้นการฟังเข้าใจเดี๋ยวเดียวก็หมดแล้วเรื่องฟัง เรื่องเข้าใจ แต่สภาพธรรม ไม่หมด เกิดมาแล้วที่สภาพธรรมจะหมด ไม่มี กำลังเห็นเป็นธรรม กำลังได้ยิน เป็นธรรม ตลอดชีวิตเป็นธรรม แต่ไม่เข้าใจ

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะอบรมเจริญปัญญาซึ่งเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ที่แม้จะได้ฟัง และเข้าใจว่าธรรมคือขณะปกติธรรมดาอย่างนี้ แต่ความไม่เข้าใจหรืออวิชชาที่สะสมมา และกิเลสบริวารทั้งหลายที่มีมาก ก็ทำให้เนือยไป รู้สึกว่า เป็นเรื่องธรรมดาๆ คิดว่าเข้าใจแล้ว เพราะฉะนั้น ก็ปล่อยไป ปล่อยไปจนกว่า สติปัฏฐานจะเกิดเมื่อไรก็เมื่อนั้น นั่นชื่อว่าเป็นคุณประมาท แต่ถ้าขณะนั้นมีความเข้าใจเกิดขึ้นว่า ศรัทธาเสื่อมลง ความสนใจธรรมลดลง ก็ควรเป็นโอกาสของ โยนิโสมนสิการที่จะรู้ว่า ต้องคบหาสมาคมกับพระธรรมเพิ่มขึ้น มิฉะนั้นแล้วก็จะปล่อยตัวเองให้เป็นมือที่จับเชือกซึ่งอ่อนแรงลง และตกลงสู่เหวของอวิชชาอีกได้


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1954


    หมายเลข 4781
    6 ก.ย. 2567