ทำเหมืองแร่
อ.อรรณพ ได้ไปดูที่เมืองจันท์ เวลาเขาทำเหมืองแร่ เขาก็จะดูว่าพื้นที่ตรงนี้น่าจะมีพวกแร่รัตนชาติ เขาก็จะเอาน้ำฉีด ก็เป็นโคลนผ่านสายพานขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่พวกกรวด พวกหินมากมาย ที่จะมีรัตนชาติปะปนมาแล้วเขาคอยแยก ก็น้อยมาก แต่ผู้ที่เขาชำนาญ พวกช่างที่เหมือง หรือพวกที่นักวิชาการทางอัญมณีศาสตร์ เขาก็จะรู้ว่าอันไหนแล้วหยิบออกมาๆ เขาจะรู้ แยกได้เร็ว ถามว่าเป็นกรวดเป็นทรายเสียมาก แต่ที่จะเป็นแร่รัตนชาติที่เป็นรัตนนั้นแสนยาก แสนน้อย เพราะฉะนั้น น้อยก็น้อย กรวดทรายมีมากกว่า แล้วคนที่ไม่รู้ ไม่สามารถแยกได้ ก็หยิบผิดๆ ถูกๆ ด้วยซ้ำไป เพราะของผิดๆ มีเยอะกว่า
เพราะฉะนั้น เรานั้นเหมือนกับคนที่ตาบอดสนิท หรือว่าดีหน่อยคือตาฝ้าฟาง เราก็แยกไม่ค่อยออกว่าอะไรเป็นรัตนชาติจริงๆ อะไรเป็นก้อนกรวดก้อนหิน แต่ถ้าเป็นคนที่ตาดีคือเป็นผู้ที่มีปัญญา ก็จะรู้ว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นกรวดเป็นทราย ที่จะเป็นรัตนะจริงๆ นั้นก็มีน้อย ฉันใด ถ้าไม่มีความเข้าใจ ไม่เข้าใจธรรม เราจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นรัตนะ เราจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นบุคคลที่หาได้ยาก ตั้งแต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้แสดงธรรมตามพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่เข้าใจธรรมตามที่มีผู้แสดง แล้วผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม อบรมเจริญปัญญา รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏในขณะนี้ ก็ยาก แล้วก็จนกระทั่งอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ธรรมตามที่พระองค์สอน ถึงจะทดแทน ถึงจะกระทำคุณทดแทนคุณของพระพุทธเจ้าได้เป็นกตัญญูกตเวที
พระพุทธเจ้าท่านสอนเราเพื่อให้เราดับกิเลส ตราบใดที่เราไม่ได้ศึกษาธรรมเพื่อดับกิเลส ก็ไม่ได้เป็นกตัญญูกตเวที เพราะฉะนั้น ยาก ทั้งหมดอยู่กับความเข้าใจ ถ้าไม่มีปัญญา ไม่มีความเข้าใจ เราเข้าไปถือประมาณในกรวดทราย โอ้โห ... มีเยอะแยะเลย แต่ถ้าเราแยกไม่ออก เพราะเราแยกไม่ออก เราถึงเห็นว่าทำไมสิ่งที่มากๆ น่าจะดี น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าถูก แต่จริงๆ ไม่เป็นอย่างนั้นเลย เพราะว่าหาได้ยาก เพราะฉะนั้น ประโยคนี้ชัดเจนว่ารัตนะเหล่านี้หาได้ยาก ผู้ที่แสดงธรรม ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรมตามที่พระองค์ท่านทรงแสดงหาได้ยากในโลก