นักฉวยโอกาส


    ท่านอาจารย์ และเมื่อกี้นี้ที่คุณบุษบงรำไพบอกว่า โลภะเป็นนักฉวยโอกาส กำลังฟังอย่างนี้ นักฉวยโอกาสเกิดหรือเปล่า

    ฉวยโอกาสแล้วค่ะ คิดเรื่องอื่น ทั้งๆ ที่โอกาสของการฟัง คือ ขณะนี้ แต่โลภะก็ยัง ฉวยโอกาส หลายคนก็คงคิดถึงเรื่องอื่น หรือขณะนั้นที่ไม่ฟัง ไม่ได้ยิน กำลังมีสิ่งอื่นที่ น่าสนใจกว่า แค่นั้นโลภะก็ฉวยโอกาสแล้ว เร็วไหมคะ นักฉวยโอกาส

    หลายคนก็คงจะคิดว่า แล้วเมื่อไรจะรู้ลักษณะของนามธรรมเสียที ฉวยโอกาสอีก แล้วค่ะ เห็นไหมคะ ไม่รู้เลยว่า ถูกฉวยโอกาสอยู่ตลอดเวลา เมื่อไรเห็นโลภะ เมื่อนั้นจะ ค่อยๆ รู้จักธรรม ซึ่งเหมือนเพื่อนสนิท

    ข้อสำคัญที่สุด ถ้าไปฉวยโอกาสตอนขณะสุดท้าย ใกล้จะจากโลกนี้ไป ก็แล้ว แต่ว่า ขณะนั้นถ้าจิตเศร้าหมองเป็นอกุศล ไม่มีทางที่จะทำให้จิตที่เป็นปฏิสนธิขณะแรก ต่อจากจุติจิตเกิดในมนุษย์ หรือสวรรค์ได้เลย

    ผู้ฟัง ฟังเรื่องฉวยโอกาสแล้วเกรงว่า ตอนนี้ใครๆ ก็จะมาฉวยโอกาส แต่ก่อนมรณภาพก็ จะถูกฉวยโอกาสอีก รู้สึกคับแค้นใจเหลือเกินครับ

    ท่านอาจารย์ ถูกฉวยโอกาสอีกแล้ว

    ผู้ฟัง ใช่ ผมกำลังจะถามว่า อย่างนี้ถูกฉวยโอกาสหรือเปล่า ก็ถูกฉวยไปเสียแล้ว

    ท่านอาจารย์ ค่ะ เร็วมากค่ะ ซ่อนตัวก็เก่ง ไม่มีใครรู้เลยว่า อยู่ไหน แต่ว่ามาเรื่อยๆ

    ผู้ฟัง อย่างขณะนี้อยากดูตัวฉวยโอกาสนั้นเสียที ก็คงจะถูกโอกาสเข้าไปอีก มันซ้อนกัน

    ท่านอาจารย์ ค่ะ เพราะฉะนั้นปัญญาเท่านั้นที่จะเริ่มเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง

    ผู้ฟัง ลักษณะของการฉวยโอกาส หรือจะเป็นลักษณะของโลภะ หรือโทสะ หรือโมหะก็ตาม ก็คอยจะฉวยโอกาสอยู่ตลอดเวลา เมื่อสักครู่นี้เราพูดว่า ควรจะกล่าวธรรมหรือ ธรรมที่หลอกลวง คงจะเป็นเรื่องเดียวกันใช่ไหมครับฉวยโอกาสกับธรรมที่หลอกลวง

    ท่านอาจารย์ นักหลอกลวงก็คือโลภะ


    หมายเลข 4866
    8 ก.ย. 2567