การสวดมนต์กับความสงบที่เป็นพุทธานุสสติ


    ท่านอาจารย์ บางท่าน เพียงแต่กล่าวตามๆ ไป แล้วก็จบ ขณะนั้นจะกล่าวว่าเป็นกุศล ได้ไหมคะ เชิญคะ

    ผู้ฟัง อาจารย์พูดถึง การเจริญสติเรื่องเกี่ยวกับ คือว่าคนที่สวดมนต์ แต่ก่อนนี้เคยสวดมนต์ แต่ว่า รู้ในตอนหลัง พิจารณาสติแล้วนี้ ขณะที่สวดมนต์ นี้ไม่เคย รู้เรื่องว่าจิตเป็นกุศล หรือ อกุศลเลย บางครั้งก็ง่วงนอน สวดๆ ผิดบ้างถูกบ้าง ก็เสร็จแล้ว คะ จบ นอนได้ คะ อย่างนี้มี คะ บางครั้งก็รีบๆ สวด จะให้เสร็จ บางครั้งก็ไม่ค่อยรีบเท่าไร ก็รู้สึกว่าประณีตนิดหน่อย แต่ว่าพอฝึกหัดเจริญสติแล้ว จนรู้สึกว่าขณะที่จิตเป็นกุศล ก็พอจะรู้ได้ เป็นบางครั้ง แล้วก็บ่อยครั้งขึ้น ขณะที่เป็นอกุศลก็ รู้ บ่อยครั้งขึ้น ก็รู้สึกว่าขณะที่สวดมนต์ ก็ยังมี อกุศลแทรกเข้ามาอย่างที่อาจารย์ ว่า บางครั้งก็นึกถึงเรื่องใด เรื่อง ๑ ซึ่งความจริงก็ไม่น่าจะนึกเลย แต่มันนึกมาแล้ว ไอ้นั่นลืมไว้ที่นี่ เอาไอ้นี้มีไว้ที่โน้น อะไรก็ไม่รู้ คือว่าไม่สามารถจะบังคับได้จริงๆ ขณะที่เขาจะเป็นอะไรก็ตาม เป็นความจริงอย่างนี้

    ท่านอาจารย์ คะ เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ ผู้ที่จะอบรมความสงบของจิตโดยระลึกถึงคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพุทธานุสติ จะทำได้โดยง่าย หรือว่าโดยยาก ถ้าไม่รู้สภาพของจิตเลย จะทำไม่ได้ แต่ถ้ารู้ จะเห็นว่าบางครั้ง เป็นอกุศลเกิดแทรกแซง ไม่ใช่ความสงบจริงๆ แล้วเวลาที่เป็นกุศลจิต นี่คะ ในการสวดมนต์ อาจจะเป็นเพียงกุศลขั้นศีล คือขั้นกิจที่กระทำเป็นประจำวัน ทางกาย และทางวาจา แต่ว่าลักษณะของจิตในขณะนั้น ไม่ใช่สมถภาวนา ไม่ใช่ขั้นอบรมความสงบของจิต เพราะเหตุว่าจิตในขณะนั้นไม่ปรากฏลักษณะของความสงบ ที่จะสงบ ขึ้น โดยการระลึกถึงคุณของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วในวัน ๑ วัน ๑ ท่านระลึกถึง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระคุณของพระองค์ด้วยความสงบ แค่ไหน ในวัน ๑ วัน ๑ เพระาว่าแม้แต่ในขณะที่กล่าวคำสรรเสริญคุณ ก็ยังไม่ค่อยจะสงบเสียแล้ว ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้น ที่จะเจริญ ความสงบโดยการระลึกถึง คุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ยิ่งขึ้น เป็นสมถภาวนา จะยาก หรือจะง่าย แล้วก็จะเป็นสิ่งที่เพียงแต่ท่องเท่านั้นได้ไหม โดยที่ไม่สังเกตุว่าขณะนั้นจิตสงบ หรือไม่สงบ


    หมายเลข 4870
    3 ส.ค. 2567