เพราะปกตูปนิสสยปัจจัยจึงสะสมมาในทางต่างๆ กัน


    ผู้ฟัง ปกตูปนิสสยปัจจัยนี้ผมเคยเห็นคนส่วนมาชอบไปในทางที่กิจกรรมเช่นสร้างโบสถ์ หรือไปนั่งสมาธิเป็นต้น ไม่สนใจศึกษาพระธรรมอย่างที่อาจารย์แสดงนี้เพื่อให้เกิดปัญญา จะอยู่ในอันนี้ไหมครับ

    ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ เพราะเหตุว่าการศึกษาปรมัตถธรรมคือ จิตเจตสิก รูปจะเห็นได้ว่าไม่มีสัตว์ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตนเลย เป็นแต่สภาพธรรมคือจิตและเจตสิกซึ่งเกิดร่วมกันแล้วดับไปตามเหตุตามปัจจัย

    กรรมหนึ่งซึ่งเป็นกุศลกรรม เป็นปัจจัยทำให้มหาวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิเป็นมนุษย์ แต่ว่ากรรมอื่น ๆเจตสิกอื่น ๆทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลซึ่งสะสมมา ก็ยังเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยที่จะทำให้แต่ละบุคคลในโลกมนุษย์มีอัธยาศัยต่าง ๆ กันไปบางท่านก็เป็นผู้ที่สนใจเพียงการให้ทาน บางท่านก็สนใจในการรักษาศีล บางท่านสนใจในการที่จะอบรมเจริญความสงบ บางท่านก็สนใจในการที่จะอบรมเจริญสติปัฏฐานตามกำลัง ซึ่งเป็นปกติของการที่ได้กระทำมาแล้วด้วยดีของแต่ละบุคคล

    เพราะฉะนั้นจึงไม่มีการที่จะกล่าวโทษบุคคลอื่น เพราะเหตุว่ารู้ว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนเลย ไม่ว่าใครจะมีกายวาจาใจที่ผิด ที่เป็นอกุศลหรือว่าที่เป็นไปเพราะความเห็นผิดต่าง ๆ ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน เป็นเพราะเหตุว่ามิจฉาทิฏฐิ เป็นอกุศลเจตสิก ซึ่งเมื่อบุคคลนั้นสะสมมาสืบต่อมาเป็นอันมากในอดีต เป็นปัจจัยที่จะให้มีความโน้มเอียงที่จะเห็นผิด พิจารณาผิด เข้าใจผิด ประพฤติปฏิบัติผิด บุคคลนั้นก็มีปัจจัยที่จะให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้น สภาพธรรมเหล่านั้นเองเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยที่ทำให้จิตในปัจจุบันเกิดขึ้นเป็นไปอย่างนั้น ๆ


    หมายเลข 4955
    28 ส.ค. 2558