ความหลงตายเป็นทุกข์
ข้อความละเอียดมียาวใน อรรถสาลินีอรรถกถาธรรมสังคณีปกรณ์ แต่ก็จะขอเพียงจะกล่าวถึง เพียงข้อความที่จะทำให้ ท่านผู้ฟังได้พิจารณาเห็นธรรม ที่ควรจะประพฤติปฏิบัติ ตาม ได้ ในพุทธวงศ์ได้กล่าวถึงพระดำริของพระผู้มีพระภาคเจ้า ในพระชาติที่เป็น สุเมธดาบสนั้น ซึ่งได้มีความคิดว่า การเกิดในภพใหม่เป็นทุกข์ ความที่สรีระร่างกายแตกทำลายไป ก็เป็นทุกข์ ความหลงตายก็เป็นทุกข์ ความที่ชีวิตถูกชราย่ำยี่ก็เป็นทุกข์ ก็ในกาลนั้น เรามีความเกิดเป็นธรรมดา มีความแก่เป็นธรรมดา มีความป่วยไข้เป็นธรรมดา จักแสวงหาพระนิพพานซึ่งไม่แก่ ไม่ตาย อันปลอดภัย ถ้ากระไรหนอ เราไม่พึงห่วงใย ไม่ต้องการทรัพย์สมบัติ ละทิ้งกายอันเปลื่อยเน่า นี้ซึ่งเต็มด้วยซากศพ ทางนั้นไม่อาจจะไม่มี หามิได้ ทางนั้นมีอยู่ และจักมีแน่นอน เราจักแสวงหาทางนั้น เพื่อความหลุดพ้นไปจากภพ ท่านผู้ฟังทุกคนทราบ ว่าท่านต้องจากโลกนี้ไปแน่ แต่ว่าท่านเห็นโทษของความหลง ตาย ก็เป็นทุกข์ ไหมคะ ท่านจากโลกนี้ไป ด้วยความหลง หรือว่าด้วยความไม่หลง ในขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ หลงไหมคะ ถ้าไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง หลงยึดถือสิ่งทีไม่มีสาระว่าเป็นสาระ หลงยึดถือสิ่งที่ปรากฏเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน นี่คือความหลง เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาค ในครั้งที่เป็น สุเมธดาบส ก็ได้มีความคิดว่า ความหลงตาย ก็เป็นทุกข์ เพราะว่าตายไป โดยที่ยังไม่ได้ตื่นขึ้น ยังไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง หลงอย่างไร ก็หลงอย่างนั้น บางท่านก็หลงเพิ่มขึ้นไม่ได้หลงน้อยลงเลย เพราะฉะนั้น ความหลงตายก็ย่อมเป็นทุกข์ เพราะเหตุว่า ย่อมจะต้องเกิดแก่ อีก เป็นธรรมดา แล้วก็มีความป่วยไข้อีก เป็นธรรมดา